ในสัปดาห์หน้า สหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 ซึ่งจะเป็นการประชุมแบบพบปะกันครั้งแรกในรอบ 2 ปี นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า เขาจะเรียกร้องให้ผู้นำของประเทศร่ำรวยทั้ง 7 ประเทศให้คำมั่นร่วมกันว่าจะมีการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีอยู่ เพื่อให้ทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนนี้อย่างเท่าเทียมกันภายในสิ้นปี 2565
นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวด้วยว่าการฉีดวัคซีนให้โลกภายในสิ้นปีหน้าจะเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ เขาขอเรียกร้องให้ผู้นำจี7 คนอื่นๆ เข้าร่วมกับสหราชอาณาจักรเพื่อยุติการระบาดใหญ่ และให้คำมั่นว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เกิดความเสียหายจากโคโรนาไวรัสเกิดขึ้นอีก
สหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากกว่า 500 ล้านโดสสำหรับประชากร 67 ล้านคนและมีการประกาศว่าจะแบ่งปันวัคซีนส่วนเกิน
ทั้งนี้ ผู้นำของเยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และแคนาดา จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 3 วันร่วมกับนายกรัฐมนตรีจอห์นสันในการประชุมที่คอร์นวอลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ (11 มิ.ย.) กับจะเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมของปีนี้
ในขณะที่ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนมาก แต่ประเทศที่ยากจนหลายแห่งยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงวัคซีน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า หากยังไม่มีการกระจายวัคซีนเพิ่มเติมไวรัสก็จะยังคงแพร่กระจายและกลายพันธุ์ต่อไป
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับประเทศที่ร่ำรวยที่สุดที่จะส่งเสริมการฉีดวัคซีนในประเทศที่ยากจนกว่า ที่ไม่สามารถหาซื้อวัคซีนได้ และย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนให้ละเว้นการคุ้มครองสิทธิบัตรวัคซีนเป็นการชั่วคราวเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต แก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
....