*สาวต้นตอแถลงการณ์ปลอม/ตร.สอบแท็กซี่รับมือระเบิด/รมว.กห.จีนพบนายกฯ*

06 กุมภาพันธ์ 2558, 07:01น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.



+++ยังต้องติดตามแถลงการณ์ ปลอม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ระบุชัด แถลงการณ์ปลอมทำ ในไทย เร่งตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับไปถึงต้นทางแพร่ คสช.เผยคุมตัวนายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้ต้องหาเผยแพร่แถลงการณ์ปลอม ขยายผลตามอัยการศึก 7 วัน ด้าน นปช.ส่งทนายพบทหารขอความเป็นธรรม จี้อย่าเลือกปฏิบัติ ส่วนคดีระเบิดพารากอนตำรวจได้เบาะแสมือระเบิดเพิ่มหลังสอบปากคำคนขับแท็กซี่ พร้อมตั้งรางวัลนำจับ ขณะที่หน่วยข่าวระบุ 1 ในมือระเบิดเป็นอดีตทหารระดับครูฝึก



+++ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเกี่ยวกับการติดตามตัวผู้ต้องหากระทำความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กล่าวเมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ถึงคดีเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า ยืนยันว่าการดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ





+++การดำเนินการกับผู้กระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ในส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ ยกตัวอย่างของ "ตั้ง อาชีวะ" ยอมรับว่าคาดหวังเรื่องการได้ตัวกลับมาดำเนินคดีเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละประเทศมีเงื่อนไขและข้อจำกัดของกฎหมายต่างกัน ส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รายงานข้อมูลผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีอาญามาตรา 112 จำนวน 40 คนที่เคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศมาให้ทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนคือส่งข้อมูลให้กระทรวงต่างประเทศไปทำความเข้าใจกับประเทศปลายทางว่าไทยต้องการได้ตัวบุคคลเหล่านี้กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ซึ่งที่ผ่านมาไทยยังดำเนินการในลักษณะดังกล่าวน้อยมาก



+++ความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยามกับทางเข้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน วานนี้ (5 ก.พ.) มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนว่า จากการสอบปากคำคนขับแท็กซี่ พยานปากสำคัญ ได้เบาะแสพฤติการณ์และรูปพรรณสัณฐานคนร้ายเพิ่มเติม โดยชายคนแรกได้ขึ้นรถและนั่งบริเวณด้านข้างคนขับ อายุประมาณ 30 ปี ผิวคล้ำ ใบหน้าเหลี่ยม เป็นสัน คางแหลม มีกลิ่นตัว เหมือนคนเดินทางไกล รูปร่างผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร พูดสำเนียงภาษากลาง ส่วนชายคนที่ 2 นั่งด้านหลัง อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร หน้าตาดี  ตา 2 ชั้น ใบหน้าค่อนข้างกลม คางมน โดยรับผู้โดยสารทั้ง 2 จากละแวกสถานีรถไฟฟ้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่



+++เมื่อขึ้นรถ ชายคนที่นั่งข้างคนขับแจ้งว่าให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์ จึงขับรถไปบริเวณปากทางเข้าห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง และแจ้งให้ผู้โดยสารลงบริเวณปากทางเข้าสยามสแควร์ แต่ชายที่นั่งข้างคนขับได้แจ้งให้ตนเลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์ เมื่อรับบัตรเข้า-ออกได้ขับรถไปได้ประมาณ 100 เมตร ชายทั้ง 2 จึงขอลงและจ่ายค่าแท็กซี่ 70 บาท ทั้งนี้พยานระบุว่า โดยหากเห็นหน้าอีกครั้งก็สามารถจดจำใบหน้าของชายคนที่นั่งด้านหลังได้ มีรายงานฝ่ายความมั่นคงว่า ได้มีการควบคุมบุคคล 4 คนตามกฎอัยการศึก เพื่อซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง 4 คนได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนขยายผลคดีนี้ พบข้อมูลว่า 1 ใน 2 ผู้ลอบวางระเบิดที่ถูกคนขับรถแท็กซี่พยานปากสำคัญระบุว่า หน้าตาดีที่นั่งด้านหลัง มีฉายาว่า ดรากอน (ขอสงวนชื่อนามกุล) มีภูมิลำเนาอยู่ จ.สมุทรปราการ มีความสนิทสนมกับอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง โดยเป็นบุคคลที่นิยมใช้ความรุนแรง และมีความสามารถในการประกอบระเบิดแสวงเครื่องซึ่งอยู่ในเครือข่ายของอดีตทหารพราน ครูฝึกระเบิด ที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.ลพบุรี ก่อนหน้านี้



+++พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุลผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวภายหลังประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีว่า ยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่หากมีการเชิญตัวมาซักถามข้อเท็จจริงว่าตัวผู้ต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดๆ หรือไม่นั้นก็เป็นการสืบสวนซึ่งเปิดเผยไม่ได้  "ขอยืนยันว่านครบาลไม่เคยระบุว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือกลุ่มใดๆ เพราะการเปรียบเทียบความสอดคล้องของคดีที่มีเหตุการณ์ตรงกันกว่า 20 คดี แต่เชื่อว่าน่าจะมีการร่วมมือกันมากกว่าสองคนแน่นอน





+++ส่วนความเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดย่านมีนบุรีนั้น มีความเป็นไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากมีความแตกต่างกันในหลายจุด ทั้งดินระเบิด การจุดชนวน เป็นต้น ทั้งนี้ หากประชาชนมีเบาะแสผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนขอให้ติดต่อมาที่หมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์สืบนครบาล หมายเลข 02-354-8226 จะมีรางวัลนำจับให้ตามระเบียบของราชการ



+++วันนี้ เวลา 11.00 น. พล.อ.ฉาง ว่าน ฉวน รมว.กลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมาเยือนไทยก่อนหน้านี้



+++วันนี้ ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก. จะเข้าฟังผลสรุปจากกระทรวงคมนาคมหลังยื่นขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถร้อนจากเดิม 8 บาท เป็น 11 บาท รถโดยสารปรับอากาศ ปรับขึ้นอีกระยะละ 3 บาท เพราะมีต้นทุนจากก๊าซ เอ็นจีวีขึ้นอีก 50 สตางค์/กก.



+++พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเชิญห้างสรรพสินค้าเข้ามาหารือเพื่อขอความร่วมมือในการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าจำหน่ายในราคาที่สูงเกินจริง

ข่าวทั้งหมด

X