คนร้ายปาระเบิดศาลอาญา สารภาพป่วนหวังผลการเมือง ออกหมายจับเพิ่มอีก

08 มีนาคม 2558, 23:12น.

ความคืบหน้ากรณีการจับกุมผู้ร้ายได้จำนวน 2 คน คือนาย มหาหิน ขุนทอง ชาวจ.ยโสธร และนาย ยุทธนา เย็นภิญโญ จากเหตุปาระเบิดใส่ศาลอาญา รัชดาภิเษกเมื่อกลางดึกเมือคืนวานนี้

พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ควบคุมตัวนาย มหาหิน มาแถลงต่อเหตุจูงใจในการปาระเบิดศาลอาญา

นาย มหาหิน ระบุว่า ตัวเองไม่ได้อยากทำ แต่ถูกกดดันจากหลายฝ่าย และกลัวครอบครัวเดือดร้อนจึงได้ลงมือทำ ซึ่งตัวเองนั้นไปรู้จักกับบุคคลที่ใช้ชื่อ เดียร์ ในไลน์ และได้เข้ากลุ่มไลน์เพื่อสนทนากัน แต่ไม่เคยพบหน้าเดียร์มาก่อน เพียงแต่ทราบว่าอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลีย โดยเดียร์ ระบุว่าหากประเทศเกิดความรุนแรง องค์การสหประชาชาติจะเข้ามาจัดการแทนรัฐบาล นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งกลุ่มเสรีชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีสมาชิกราว 10 คน เพื่อโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประชาธิปไตย ส่วนในกลุ่มไลน์ที่ติดต่อกันมีสมาชิกอยู่ในต่างประเทศและในประเทศ โดยการลงมือนั้น ตัวเองได้ไปกับนาย ยุทธนา เพื่อรับระเบิดกับนาย ใหญ่ พัทยา ที่บริเวณลำลูกกา ซึ่งตัวเองนั้นเป็นผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ ส่วนนาย ยุทธนา เป็นผู้ขว้างระเบิด โดยไม่เคยได้รับการฝึกอาวุธมาก่อน และได้รับค่าจ้าง 20,000บาท ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการจัดหาอาวุธมาจากที่ใด พร้อมระบุว่าตัวเองนั้นไม่ได้ฝักใฝ่การเมืองใดๆ
อย่างไรก็ดียอมรับว่าจะมีการสร้างความรุนแรงมากกว่านี้แต่ยังไม่ได้ระบุสถานที่ เพราะต้องรอการประชุมจากสมาชิกก่อน โดยการสร้างความรุนแรงที่มีกระแสข่าวว่าจะมีขึ้นในวันที่ 15 มีนาคมกว่า 100 จุดนั้น เป็นการสร้างความรุนแรงทั่วทุกภาคในประเทศ ซึ่งตัวเองหวังว่าจะทำให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาจัดการตามที่บุคคลในไลน์ชื่อ เดียร์ว่าไว้ ทั้งนี้ส่วนตัวมีอุดมการณ์ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย พร้อมระบุด้วยว่า แฟนของตัวเองที่รู้จักกันช่วงที่ตัวเองบวชที่ชื่อน.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง นั้นเคยเป็นบอดี้การ์ดให้กับพล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง.อดีตผบช.น. รวมทั้งมีเบอร์ติดต่อ แต่ไม่ทราบว่ามีความสนิทกันในระดับใด

ด้านพล.ต. พงษ์สวัสดิ์ ระบุว่า จากนี้จะซักถามเพื่อขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 คน เป็นผู้หญิงซึ่งเป็นแฟนของนาย มหาหิน และนาย ยุทธนา พร้อมระบุด้วยว่ากลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการเมืองบางกลุ่ม แต่ต้องรอหลักฐานที่ชัดเจนจึงจะขยายผลได้ ทั้งนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับใคร โดยอยู่ระหว่างการอนุมัติของศาล ซึ่งขณะนี้ต้องควบคุมตัวนาย ยุทธนา และนาย มหาหินไว้ชั่วคราวตามกฎอัยการศึกก่อนเป็นเวลา 7 วันจากนั้นจึงจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการฝากขังต่อไป
ส่วนกลุ่มของนาย ยุทธนาและนาย มหาหินที่จับได้นั้นมีการติดตามมานานแล้ว จนเชื่อมั่นว่าจะก่อเหตุดังกล่าวจึงสามารถจับกลุ่มได้ ทั้งนี้พล.ต. พงษ์สวัสดิ์ ระบุว่า ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสอดส่องในเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ พร้อมระบุว่า การมีความเชื่อตามอุดมการณ์การเมืองเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง
ด้านพ.ต.อ. กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ระเบิด RGD 5 ไม่มีใช้อยู่ในหน่วยงานราชการไทยทั้งกองทัพและตำรวจ โดยระเบิดชนิดนี้มีแหล่งผลิตอยู่ที่ประเทศรัสเซีย และมีใช้ตามประเทศเพื่อนบ้านไทยเช่น กัมพูชา จึงเชื่อได้ว่าเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และคงไม่สามารถตรวจสอีบจากแหล่งผลิตได้ว่าผู้ใดเป็นผู้ซื้อระเบิดเข้ามา แม้จะมีซีเรียลนัมเบอร์ระบุไว้ก็ตาม พร้อมไม่ระบุว่าบุคคลที่ใช้ RGD 5 ก่อเหตุนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มที่ใช้ RGD 5 ก่อเหตุที่บรรทัดทองและอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิหรือที่พบที่บางนาหรือไม่ แต่พบว่าระเบิด RGD 5 ที่พบในอนุเสารีย์ บรรทัดทองและบางนา มีซีเรียลนัมเบอร์ตรงกัน อย่างไรก็ดีตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน พบระเบิด RGD 5 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้วกว่า 21 ครั้งจำนวน62 ลูก ทั้งพบจากการระเบิด การนำมาทิ้งและการตรวจพบต่างๆ
ล่าสุด ศาลทหารกรุงเทพฯได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนแล้ว ประกอบด้วย นาย ยุทธนา อายุ 34 ปี นาย มหาหิน อายุ 34 ปี นางสาว นางสาว อัชพรรณ ปกครอง อายุ 20ปี และนาย วีระศักดิ์ โตวังจร อายุ 42 ปี ในข้อหากว่า 5 ข้อหา เช่นร่วมกันพยายามฆ่าผู่อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครอง มีและใช้เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ทำให้เกิดระเบิดซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น เป็นต้น
ข่าวทั้งหมด

X