หลังจากศาลทหาร กรุงเทพ อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (รองผกก.1 บก.ปคม.) ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.ท. ธนบัตร มีความเกี่ยวการกระทำความผิดของพ.ต.ต. ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อดีตรองสารวัตรกองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในกรณีแอบอ้างสถาบันไปเรียกรับผลประโยชน์ จ้างทำของที่ระลึก เรียกเก็บเงินต่างๆ ซึ่งขณะนี้พ.ต.ท. ธนบัตร ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาแล้ว ส่วนจะให้พักราชการหรือย้ายไปช่วยราชการที่อื่นหรือไม่นั้น กำลังพิจารณาอยู่ ส่วนขณะนี้พ.ต.ท. ธนบัตรจะยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านการติดตามตัวผู้ต้องหารายอื่นๆ ในคดีนี้ มีรายงานข่าวมาว่าหลายคนเดินทางออกนอกประเทศโดยใช้ช่องทางธรรมชาติไปแล้ว ซึ่งยังไม่มีเอกสารในการยืนยันว่าอยู่ที่ใด เนื่องจากไม่ใช่การเดินทางแบบปกติ เช่นเดียวกับพล.ต.สุชาติ พรมใหม่ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก, พ.ต.อ. ไพโรจน์ โรจน์ขจร อดีตผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม และพ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา อดีตรองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ก็มีข่าวว่าเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเช่นกัน และยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีออกนอกประเทศนั้น ไปพักอาศัยอยู่ด้วยกันหรือไม่ โดยเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน ขณะที่ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหารายอื่นๆ เพิ่มเติม
ส่วนการย้ายพล.ต.ท. รอย อิงคไพโรจน์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจาก ยังไม่พบการกระทำความผิด
ส่วนกรณีของพล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม มีสาเหตุมาจากการปล่อยปละละเลยให้ลูกน้องกระทำความผิด ซึ่งโอกาสที่พล.ต.ท. รอย และพล.ต.ต. อัคราเดช จะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า นายตำรวจยศพล.ต.ต. กำลังจะถูกออกหมายจับ พล.ต.อ. เดชณรงค์ ระบุว่า ต้องรอความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง