*ไทยลงนามร่วมกับจีน-เยอรมัน ซื้อรถไฟฟ้า46ขบวน184 ตู้ กว่าหมื่นล้านบาท*

23 พฤษภาคม 2559, 17:22น.


การลงนามซื้อรถไฟฟ้า 46 ขบวน 184 ตู้ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารและส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสในอนาคต นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในพิธีลงนามซื้อรถไฟฟ้า 46 ขบวน 184 ตู้ มูลค่า 11,000 ล้านบาท ในสัญญาซื้อระหว่างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กับตัวแทนบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคล จำกัด จากประเทศจีน และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กับตัวแทนบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จากเยอรมัน



นายสมคิด กล่าวว่า การลงทุนของภาคเอกชนในประเทศ เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยทรุดไปตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นแต่จะต้องไม่ประมาท และต้องระมัดระวังโดยเฉพาะการส่งออกที่มีถึง ร้อยละ 70 ของจีดีพี ของประเทศ และเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นหรือไม่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่เป็นเอกชนที่ต้องใช้เงินลงทุนในประเทศ ไม่ใช่ลงทุนที่ต่างประเทศ





การลงนามในวันนี้ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัทบีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สัญญาซื้อขบวนรถไฟฟ้า จะแบ่งออกเป็นการซื้อจากบริษัทซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคล จำกัด จำนวน 24 ขบวน และจากบริษัทซีเมนส์ จำกัด จำนวน 22 ขบวน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งในเส้นทางปัจจุบันหมอชิต-แบริ่ง และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า รวมระยะทาง 36.25 กิโลเมตร และในเส้นทางส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการระยะทาง 13 กิโลเมตรและคูคตระยะทาง 19 กิโลเมตรซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารตามปกติสูงสุดเกือบ 9 แสนคนต่อวัน ก็จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 1 เท่าตัว ซึ่งขบวนรถไฟฟ้าที่สั่งซื้อ จะใช้สเปคเดียวกับ ของเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้เข้ากับระบบต่างๆได้อย่างสมบูรณ์แต่จะมีการปรับปรุงอุปกรณ์บางส่วนเพื่อให้ทันสมัยที่สุด ส่วนเรื่องเงินที่จะที่นำมาซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเป็นเงินของเราเอง พิจารณาเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ขบวนรถไฟฟ้าจะเริ่มทยอยส่งมอบประมาณ ต้นปี 2561 และจะส่งมอบเสร็จทั้งหมดภายในปี 2563 ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ส่งมอบ จะทำให้มีขบวนรถให้บริการทั้งสิ้น 98 ขบวนรวม 392 ตู้





ขณะที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการและคูคต เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่องในเส้นทางเดียวกัน โดยจะสามารถทดลองเดินรถในเส้นทางสมุทรปราการได้ 1 สถานี ภายในเดือนธันวาคมปีนี้คือสถานีสำโรงและจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2560 รวมทั้งทยอยเปิดบริการส่วนที่เหลือให้เร็วที่สุดในเส้นทางสมุทรปราการและคูคต นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการรถไฟฟ้าขนาดรองที่เป็นระบบเสริม ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเช่น สายสีเทา สายสีทองและรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบาแอลอาร์ที จากบางนาไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกสบายในการเดินทางยิ่งขึ้น



ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี 

ข่าวทั้งหมด

X