นายกฯสิงค์โปร์เยือนไทยถวายความอาลัย/จุฬาราชมนตรีขออย่าใช้ความรุนแรงแก้ใต้/ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยคดีทุจริตข้าว

+++นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และภริยา เยือนไทยเพื่อถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนการหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ยกเลิกเนื่องจากเดินทางไปถวายความอาลัย

+++ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน นายลี ได้เดินทางไปที่สถานทูตไทยประจำสิงคโปร์ ลงนามในสมุดถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างประเทศสิงคโปร์และประเทศไทย ตลอดการครองราชย์ที่ยาวนานและปกครองประเทศด้วยคุณธรรม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรและทรงงานอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์(ศตส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศตส.ติดตามสถานการณ์สำคัญๆ ในด้านต่างๆ ทั้งความมั่นคงการรักษาความสงบเรียบร้อย การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ภาพรวมทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สถานการณ์เป็นไปอย่างปกติ หน่วยงานด้านความมั่นคงและการข่าว ยังคงทำหน้าที่ในระดับสูงสุด ขณะที่การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ศตส.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลทั้งเรื่องที่พัก อาหาร  การแพทย์ สาธารณสุข 

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้ความสำคัญและเน้นย้ำว่าต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการขนส่งสาธารณะ โดยได้เพิ่มจุดจอดรถ เป็น 8 จุด และจะเพิ่มการสัญจรทั้งทางบก และน้ำ พร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างดีที่สุด ส่วนด้านการแพทย์ ได้มีการจัดจุดบริการประชาชนไว้ 11 จุด มีโรงพยาบาลสนาม 2 จุด ซึ่งจะสามารถดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง

+++นายสุวพันธุ์  กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีพระมหากษัตริย์ และผู้นำต่างประเทศติดต่อจะเดินทางมาแสดงความอาลัย อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งรัฐบาลจะดูแลอย่างสมเกียรติ

+++ความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(คปต.) ในระดับพื้นที่ หรือผู้แทนรัฐบาลส่วนหน้า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงงานพระราชพิธี แต่ทุกคนยังทำงานเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไปอย่างเต็มที่ หลังจากรับหน้าที่และได้แบ่งงานไปยังส่วนต่างๆ แล้ว และได้ลงพื้นที่พบกับจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการอิสลามกลาง และคณะกรรมการมุสลิมในจ.สงขลา และได้หารือกัน โดยจุฬาราชมนตรี ได้ให้พรให้การทำงานของคณะกรรมการฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเน้นว่าขอให้แก้ปัญหาโดยอย่าใช้ความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรงจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย

+++พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กับกรรมการทั้ง 13 คนไปหมดแล้ว แต่ละคนได้รับผิดชอบงานเป็นกลุ่มงานต่างๆ และในสัปดาห์หน้าจะเป็นการจัดให้กลุ่มงานต่างๆ ได้รับคำชี้แจงจากกระทรวงต่างๆ ที่มีความรับผิดชอบในกลุ่มงานนั้น โดยคปต.จะจัดให้มีการบรรยายของแต่ละกลุ่มงานเพื่อให้กรรมการทั้ง 13 คน ได้มีความเข้าใจในเนื้องานของแต่ละกลุ่มงานมากยิ่งขึ้น ช่วงต้นเดือนพ.ย.จะมีการประชุมคณะกรรมการฯ โดยรวมอีกครั้ง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 4 จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ ทหาร ภาคเอกชน

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลย ครั้งที่5 คดีที่อัยการสูงสุด ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนรัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนบาท ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

+++กรณีการออกคำสั่งทางปกครองเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ของกระทรวงการคลังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระทรวงการคลังลงนามหรือยัง เพราะเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงานมายังรัฐบาล และถ้ามีการลงนามแล้ว ก็ต้องส่งเรื่องถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งภายใน 30 วัน หลังจากวันได้รับหนังสือ ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะเตือนอีกภายใน 15 วัน และถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งน.ส.ยิ่งลักษณ์​ต้องไปฟ้องศาลปกครอง และระหว่างนี้จะไม่มีการยึด และอายัดทรัพย์ 

+++นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิธีเปิดการประชุมสัมมนา และมอบนโยบายในการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561

+++ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่3/2559 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล

แฟ้มภาพ