กรณีคล้ายเสียงระเบิดบริเวณใกล้โรงละคร แห่งชาติ ที่ล่าสุดพบ ไอซีไทม์เมอร์ หรือตัวตั้งเวลาที่เป็นชิ้นส่วนประกอบของระเบิดไปป์บอมตกบริเวณพื้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 15 เมตร อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีคล้ายคลึงกับเหตุระเบิดที่หน้ากองสลากกินแบ่งเก่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบหา ซึ่งพบว่ามีความก้าวหน้าตามลำดับ ส่วนการที่มีส่วนประกอบคล้ายกับกรณีระเบิดที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อาจมีส่วนประกอบคล้ายกันหรือไม่ต้องไปดูหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ส่วนตัวมองว่า จุดประสงค์ในการก่อเหตุ อาจเพื่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และต้องการมีรัฐบาลมีปัญหา ซึ่งหากยึดโยงถึงใคร ก็จะต้องดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ประเทศชาติต้องมีเสถียรภาพ ขณะที่ ประชาชนต้องมีส่วนช่วยกันเฝ้าระวังเพราะยังมีคนไม่ดีอยู่ ซึ่งหากคิดเพียงว่าเพื่อให้รัฐบาลเกิดปัญหา ก็จะทำให้กระทบเศรษฐกิจ เสถียรภาพ ประเทศก็เดินต่อไม่ได้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ทำให้เสียสมาธิในการทำงานตามโรดเมพ ขณะเดียวก็ยังไม่มีแนวคิดการปรับคณะรัฐมนตรีตามที่มีกระแสข่าวอีกด้วย
ส่วนกรณีที่กลุ่มพยาบาลวิชาชีพบางส่วนยังไม่พอใจ มติคณะรัฐมนตรีที่ให้มีการทยอยบรรจุพยาบาลภายใน 3 ปี เพราะต้องการให้บรรจุทั้งหมด 10,992 อัตราภายในเดียว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบรรจุในครั้งเดียวทำไม่ได้ เพราะมีผลกระทบกับเรื่องงบประมาณที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งต้องมองไป ที่ส่วนราชการอื่น ๆ ด้วย จะต้องแก้ทั้งระบบ โดยมองว่าหากส่วนใหญ่เข้าใจมีเพียงส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจ หากทุกคนเรียกร้องทุกอย่างไม่สามารถทำได้ จึงขออย่าหาเรื่องให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมยืนยันว่าตนเองพยายามทำให้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทแก่ข้าราชการที่สำเร็จจากโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ พร้อมมอบประกาศนียบัตรและเข็มที่ระลึกแก่ข้าราชการที่สำเร็จจากโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 9 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ข้าราชการรุ่นใหม่ ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพราะประเทศต้องการเปลี่ยนแปลงหลักที่คิดถูกต้อง ทำแผนงานอย่างบูรณาการทุกภาคส่วน เพราะทุกอย่างคือโรดเมพในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และข้าราชการต้องพัฒนาไปเป็นข้าราชการ 4.0 ส่วนภาคประชาชนต้องเรียนรู้ ที่สำคัญคือการพัฒนาคน เพื่อให้เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว