หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.มีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องนี้ ขออย่าเป็นห่วงเพราะอย่างไรก็ต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ และขอให้มีความเชื่อมั่น แต่เพราะขณะนี้ยังมีการพูดจาให้ร้ายกันอยู่ ดังนั้นพรรคการเมืองต้องหยุดการกระทำเพื่อให้ประชาชนสบายใจ และบ้านเมืองสงบ นำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีธรรมาภิบาล พร้อมขอว่าอย่าถามบ่อยเพราะคสช.ต้องหาวิธีการดำเนินการจนได้ หากถามเข้ามามากอาจทำให้คิดช้าและคิดไม่ออก ทั้งนี้ยืนยันว่าการปลดล็อคพรรคการเมืองทันกรอบเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเลือกตั้งว่าต้องรอพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะกำหนดร่างระเบียบกติกา นำไปสู่การประกาศวันเลือกตั้ง
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีฝ่ายใดแจ้งเข้ามาว่าอยู่ที่ใด แต่เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงเรื่องขั้นตอนและกฎหมายในการติดตามตัว และได้เพิกถอนพาสสปอร์ตแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบข่าวว่าอยู่ที่ใด
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ที่นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ที่เรียกร้องให้ชี้แจงอนาคตของตนเอง โดยนายกรัฐมนตรี ได้ย้อนถามว่า นายวรชัยเป็นใคร และตนเองเป็นใคร ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้นายวรชัยจะต้องมาตอบคำถามตนเองมากกว่า อีกทั้งอยากฝากถามด้วยว่า สมัยที่นายวรชัยเป็นรัฐบาลนั้นทำได้หรือไม่ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ดังนั้นขออย่ามาติติงแต่ควรเสนอข้อแนะนำเข้ามาดีกว่า
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าในหลายๆ อย่างดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องมีการออกมาตรการออกมาเพิ่มเติมอีก ซึ่งการจัดงานสำคัญช่วงที่ผ่าน ทำให้ได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจเนื่องจากมีการจ้างงานซึ่ง 1 กลุ่มรัฐวิสาหกิจจะมีคนได้รับผลประโยชน์กว่า 10 ล้านคน อย่างไรก็ตามในเรื่องของเศรษฐกิจโดยรวมนั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยเศรษฐกิจโลกด้วย เช่นกรณีราคายางที่ปรับเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดโลก ดังนั้นต้องมีการหามาตรการที่ไม่ต้องมุ่งหวังการส่งออกจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
นอกจากนี้ยังสั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษารายละเอียดการดำเนินโครงการช็อปช่วยชาติให้รัดกุมและมีระยะเวลายาวกว่าเดิม เพื่อเพิ่มการซื้อสินค้าให้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่สภากลาโหมเตรียมนำ ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนผิดกฎหมายมาฝึกอบรม ที่กรมสรรพาวุธทหารบก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทางสภากลาโหมแค่นำนักโทษเหล่านั้นมาช่วยงาน ไม่ใช่นำมาใช้งาน เพราะทางกรมราชทัณฑ์ มีการฝึกอบรมนักโทษอยู่แล้ว และตนเองเห็นว่าบุคคลเหล่านั้นมีความสามารถ หากจับกุมมาแล้วไม่มีงานทำเมื่อพ้นโทษก็จะกลับไปทำผิดเช่นเดิม ทั้งนี้เมื่อฝึกอบรมเสร็จสิ้นและพ้นโทษ หากบุคคลเหล่านั้นต้องการจะเข้ามาทำงานก็ต้องมีการคัดเลือกอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ถูกวิจารณ์ว่าตั้งลูกสาวตัวเอง นั่ง รองเลขาธิการ คสช. รับเงินเดือนครึ่งแสน แล้วถูกนำไปเปรียบเทียบ กรณีนักการเมืองตั้งเครือญาติตัวเอง อาจเป็นการไม่เหมาะสม ว่า เรื่องนี้นายมีชัยได้ชี้แจงไปแล้ว
....
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี