ตร.จับกุม 2 เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่จากภาคเหนือ

19 พฤศจิกายน 2561, 10:57น.


การจับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี รวมผู้ต้องหา 8 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 300,000 เม็ด กัญชาแห้งจำนวน 857 กิโลกรัม



พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมนางสมพร แช่ลิ้ม, นายเกรียงไกร อัศวเดชฤทธิ์ และนางสาวอนุธิดา แสงทอง พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 150 มัดจำนวนประมาณ 300,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 2 คัน ได้ที่ ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง และต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง ตามที่เจ้าหน้าที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทางหลวง ร่วมกันสกัดกั้นกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเข้าสู่ตอนในของประเทศไทย และเรียกตรวจรถยนต์หมายเลขทะเบียน ณธ1568 กรุงเทพฯ ที่ด่านแม่พริก มีนางสมพรแสดงตัวเป็นเจ้าของรถยนต์ ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในถังแก๊สแอลพีจี จำนวน 150 มัด ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน สห5556 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถนำเส้นทางติดตามจับกุมได้ที่ซอยแยกจากถนนสายเถิน-ทุ่งเสลี่ยม อ.เถิน จ.ลำปาง มีนายเกรียงไกร ผู้ขับ และ น.ส.อนุธิดา นั่งมาในรถด้วยกัน แต่จากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดภายในรถยนต์ เบื้องต้นดำเนินคดี 3 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต





ด้านพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า  การซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในถังแก๊ส ไม่ใช่วิธีการใหม่ แต่ยอมรับว่าทำให้การตรวจสอบทำได้ยากขึ้นและต้องมีการประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)



ส่วนอีกคดีเป็นการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายชาญพงศ์ ผลจันทร์, นายชัยวัฒน์ มาตราช, นายสมหมาย โยบุตดา, นายเอกชัย โยบุตดา และนายวิทยา ศรีหะมงคล ในนามของเครือข่ายนายสมหมาย ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในและในพื้นที่ภาคใต้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ผลจากการเฝ้าสังเกตการณ์ พบรถกระบะนิสสันทะเบียน 1ฒห6312 กรุงเทพฯ  ขับไปตามถนนสระบุรี-หล่มสัก มุ่งหน้าจ.สระบุรี และพบรถกระบะทะเบียน 2ฒก720 กรุงเทพฯ วิ่งตามหลัง โดยมีรถยนต์ทะเบียน บม6075 สกลนคร วิ่งนำเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกัญชาจำนวน 857 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์โดยมีถุงแตงกวาและถุงมันเทศทับอยู่ข้างบน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต



และเมื่อถามว่า การออกกฎหมายให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์จะทำให้การลักลอบขนกัญชาเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น คาดว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 และยังไม่มีการประกาศใช้กฎหมายจึงเป็นหน้าที่ของตำรวจปราบปรามยาเสพติดในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะเข้าประเทศ



...

ข่าวทั้งหมด

X