ป.ป.ส.เปิดเผยคุณสมบัติของบุคคลที่ขออนุญาตปลูกกัญชาได้

21 กุมภาพันธ์ 2562, 17:59น.


รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ระบุว่า กัญชายังคงเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ซึ่งได้ผ่อนปรนให้สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้เท่านั้น ผู้ที่จะสามารถขออนุญาตผลิต นำเข้าและส่งออกกัญชาได้ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้



(1) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์  เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือให้บริการทางเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หรือเภสัชกรรม



(2) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม และสัตวแพทย์ หรือแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์หรือหมอพื้นบ้านตามหลักเกณฑ์ที่ รมว.สธ. กำหนด



(3) สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มีการศึกษาวิจัยและจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์



(4) เกษตรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร  ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย และดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลของผู้ขออนุญาตที่เป็นหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน    



(5) ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ



(6) ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องนำติดตัวเข้ามาใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว



(7) ผู้ขออนุญาตอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง 



ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องยื่นคำขอต่อเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และต้องเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน จึงจะเสนอเลขาธิการ อย. เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป จึงจะสามารถดำเนินการผลิต นำเข้า หรือส่งออก ได้





นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การขออนุญาต และการอนุญาตเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยผู้ขออนุญาตที่หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ และผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ กรณีบุคคลธรรมดา ต้องมีสัญชาติไทยและอยู่ในประเทศไทย



กรณีนิติบุคคล ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทยและกรรมการ 2 ใน 3 ต้องมีสัญชาติไทย รวมทั้งต้องมีสำนักงานที่ตั้งในประเทศไทยด้วย ขอเน้นย้ำว่า ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไม่ว่าจะเป็น กัญชา หรือพืชกระท่อม ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครอง หรือเสพ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมาย ทั้งโทษจำคุกหรือโทษปรับ การผ่อนปรนเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ กฎหมายได้กำหนดให้มีมาตรการในการกำกับดูแลทั้งการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายและครอบครองหรือเสพเพื่อการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข จึงฝากถึงผู้ป่วยอย่างหลงเชื่อว่าสามารถปลูกกัญชาเพื่อใช้รักษาโรคที่บ้านเองได้ หากต้องการใช้กัญชาเพื่อการบำบัดรักษาโรคให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยหรือสั่งใช้กัญชาหรือสารสกัดเพื่อการบำบัดรักษาโรค ซึ่งจะได้กัญชาหรือสารสกัดที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ และใช้ได้โดยไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย



 



 



CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส. 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X