ผตห.เกี่ยวข้องอาวุธสงครามจ.ฉะเชิงเทราเข้ามอบตัว/ออกหมายจับ จักรภพ-เสธ.หยอย

หลังจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ออกมาระบุว่า ได้เบาะแสผู้นำอาวุธสงครามมาทิ้งไว้ที่ อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา และเตรียมออกหมายจับ ปรากฏว่า นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร ได้เดินทางเข้ามาติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่รับผิดชอบ ของกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ ทบ.1 (ศปภอ.ทบ.1) ในพื้นที่ วังน้อย-ปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวมาควบคุมไว้ในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ตามมาตรา 44 ฐานความผิดมีอาวุธสงครามในครอบครอง ก่อนจะนำตัว นายวัฒนา ไปขออนุมัติศาลเพื่อฝากขังผัดแรกวันที่ 7 ธ.ค.นี้ เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวครบ 7 วัน โดยกำลังพิจารณาว่าจะส่งศาลทหารหรือศาลพลเรือน ซึ่งจากการซักถามและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายวัฒนา มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายแดงฮาร์ดคอร์ และเคยต้องคดีมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองมาแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบและแห่งชาติ (คสช.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร, นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือ เปี๊ยก กาละแม, นายสมเจตน์ หรือ สน คงวัฒนะ, นายมนัส หรือ พล.ท.มนัส หรือเสธหยอย เปาริก  อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3  และ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร สืบเนื่องจากการตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  หลังสืบสวนพบว่าเป็นอาวุธที่บุคคลเหล่านี้ส่งมอบให้กับผู้ก่อเหตุวุ่นวายในช่วงปี 2557 และมีความเกี่ยวพันกับอาวุธเหล่านี้โดย พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับภายในวันที่ 6 ธันวาคมนี้

ปภาดา พูลสุข รายงาน 

(แฟ้มภาพ) ขอบคุณภาพจากมติชน