จันทบุรี จังหวัดทางชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 245 กิโลเมตร เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยดิน ฟ้า อากาศ เอื้ออำนวยต่อการปลูกผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะราชาแห่งผลไม้อย่างทุเรียน และราชินีแห่งผลไม้อย่างมังคุด มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ป่าไม้ น้ำตก ชายทะเล และโบราณสถานต่างๆ เรียกได้ว่าอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ด้วยการขับรถเพียง 4 ชม. ก็ได้เที่ยวอย่างจุใจ ในทุกๆ สไตล์ จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ตั้งอยู่ที่ 111 หมู่ 5 ถนนสันติสุข ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี มีแม่น้ำจันทบุรีไหลผ่านบริเวณด้านหน้า อยู่ตรงข้ามชุมชนริมน้ำจันทบูร โบสถ์คริสต์แห่งนี้มีประวัติการก่อสร้างที่ยาวนานถึง 300 ปี ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี โดยคุณพ่อเฮิ้ต โตแลนติโน และบรรดาคาทอลิกชาวญวน จนถึงปี พ.ศ. 2377 ได้มีการย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีอันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน และในพ.ศ. 2446 ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้นให้มีขนาดใหญ่กว่าหลังเก่าเพื่อรองรับกับจำนวนคริสตศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น
โบสถ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบ “โกธิค” ตัวอาคารยาว 60 เมตร กว้าง 20 เมตร มีหอแหลมสูงเด่น หอสูงด้านขวามีนาฬิกาเรือนใหญ่ติดตั้งอยู่ เส้นรอบหน้าปัดวัดได้ 4.70 เมตร จากหอสูงนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองจันทบุรีได้ไกลประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในมีการตกแต่งด้วยศิลปะเก่าแก่ มีความสวยงามมาก โดยมีการประดับตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่าง ๆ กระจกเหล่านี้มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี ภายในโบสถ์มีองค์แม่พระประดับตกแต่งด้วยพลอยกว่า 2,000,000 เม็ด หรือกว่า 2 หมื่นกะรัต บรรดาคริสต์ศาสนิกชนและชาวจันทบุรีได้จัดสร้างองค์แม่พระประดับพลอยนี้ขึ้น นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในภาคตะวันออก
เป็นชุมชนเก่าแก่อายุประมาณ 300 ปี ตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมและพัฒนาริมน้ำจันทบูร ให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ถนนริมน้ำในอดีตเคยเป็นย่านการค้าดั้งเดิม มีร้านค้าเก่าแก่ บ้านเรือนเก่าที่ยังมีความงดงาม น่าชม ปัจจุบันมีที่พักและร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว
น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีต้นกำเนิดมาจากลำธารน้ำใต้ดินที่ผุดขึ้นตรงซอกหินบนหน้าผาแล้วไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง น้ำใสเหมาะกับการลงเล่นน้ำ ก่อนถึงตัวน้ำตกจะมีแอ่งน้ำธรรมชาติซึ่งเป็นที่อาศัยของปลาพลวง ซึ่งจะพบเฉพาะตามลำธารน้ำตกบางภาคเท่านั้น ในบริเวณน้ำตกพลิ้วยังมีโบราณสถานที่สำคัญ 2 แห่ง คือ
พีระมิดพระนางเรือล่ม เป็นสถูปทรงพีระมิดสร้างด้วยหินแกรนิต เมื่อ พ.ศ. 2424 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความรักที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หลังจากที่พระองค์เสด็จทิวงคตเนื่องจากเรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในพีระมิดบรรจุพระอังคารส่วนหนึ่งของพระองค์ไว้ด้วย
อลงกรณ์เจดีย์ สร้างด้วยศิลาแลง เมื่อ พ.ศ. 2419 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2417 ทั้งสองพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยในน้ำตกพลิ้วมาก จึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกและพระราชทานนามเจดีย์นี้ว่า “อลงกรณ์เจดีย์”
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี หนึ่งในชุมชนชวนเที่ยวโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขนมแปลกท้องถิ่นจันทบุรีถูกรวบรวมไว้ที่นี่ เกือบทุกบ้านของชุมชนต่างทำขนมแปลกให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองความแปลกและอร่อย เช่น ขนมควยลิง ขนมอี๋น้ำเยี่ยววัว ขนมพระพาย ขนมลูกระเบิด ตังเมโบราณ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อยอย่างอื่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง หอยพอกย่าง ข้าวเกรียบยาน้ำจิ้ม รอคอยนักท่องเที่ยวมาลิ้มลองรสชาติเช่นกัน โดยตลาดชุมชนขนมแปลกหนองบัวเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดทั้งวัน
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นสถานที่เพาะพันธุ์โลมา และการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย นั่นก็คือ โลมาปากขวด หรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตร หรือโลมาอิระวดี และนอกจากการแสดงโลมาแล้ว โอเอซีส ซี เวิลด์ ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้ ชนิดที่เรียกว่า “เนื้อแนบเนื้อ” กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความประทับใจเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต
สถานที่ติดต่อ โทร. 039 499 222