จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยว หลายรูปแบบ มีน้ำตก ภูเขา มีพื้นที่ติดต่อกับแม่น้ำโขง และแขวงบริคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บึงกาฬเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นให้เป็นจังหวัดได้ไม่นาน นับเป็นจังหวัดใหม่ที่น่าสนใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม
วัดอาฮงศิลาวาส (แก่งอาฮง) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ตำบลไคสี ห่างจากอำเภอเมืองบึงกาฬ 21 กิโลเมตร บริเวณวัดกว้างขวางและสวยงาม เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธคุวานันท์ศาสดา” หล่อด้วยทองเหลืองลักษณะคล้ายกับพระพุทธชินราช เชื่อกันว่าลำน้ำโขงบริเวณหน้าวัดเป็นจุดที่ลึกที่สุดในแม่น้ำโขง หรือเรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” ได้เคยมีการวัดโดยใช้เชือกผูกกับก้อนหินหย่อนลงไปได้ถึง 98 วา ในฤดูน้ำหลากกระแสน้ำจะไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ เมื่อรูปกรวยแตกจะมีเสียงคล้ายกระแสน้ำไหลเซาะโขดหินแล้วจะค่อย ๆ หายไป เมื่อกระแสน้ำเชี่ยวมาอีกก็จะก่อตัวขึ้นใหม่เกิดสลับกันตลอดทั้งวัน ส่วนหน้าแล้งในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะมองเห็นแก่งชัดเจน
วัดโพธาราม ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ หมู่ 5 ตำบลบึงกาฬ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบ ( 5 ฟุต 4 นิ้ว ) ประดิษฐานบนแท่น 4 เหลี่ยม ซึ่งได้บูรณะขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 2537 ชาวบึงกาฬได้จัดให้มีการสมโภชหลวงพ่อพระใหญ่ปีละ 2 ครั้ง คือประเพณีบุญเดือน 3 หรือบุญข้าวจี่ มีการถวายปราสาทผึ้งด้วย และประเพณีสรงน้ำหลวงพ่อพระใหญ่ จัดงานสัปดาห์หลังเทศกาลสงกรานต์
ศาลเจ้าแม่สองนาง ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลบึงกาฬ ในตลาดอำเภอเมืองบึงกาฬ ชาวบ้านจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนางเพื่อเป็นสิริมงคลและให้คุ้มครองผู้ที่ประกอบอาชีพทางน้ำให้พ้นจากภัยอันตราย และนิยมสักการะเพื่อขอให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง การเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะทางน้ำ ใช้ดอกไม้ธูป เทียน พวงมาลัย มะพร้าวอ่อน และน้ำแดง ในการสักการะ
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาตินิเวศ และแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ มีลักษณะแคบและยาว มีเนื้อที่ 8,064 ไร่ น้ำในบึงลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 0.05-1.0 เมตร ต้นน้ำของบึงโขงหลงเกิดจากภูวัวและภูลังกาไหลมารวมกัน เดิมเป็นลำน้ำแคบ ๆ ไหลลงลำห้วยฮี้ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำสงคราม และไหลลงสู่แม่น้ำโขงในที่สุด เมื่อ พ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาโครงการเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2523 และได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง เมื่อ พ.ศ. 2525 บึงโขงหลงได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติอันดับที่ 1,098 ของโลก (Wetland of International Importance) ในปี พ.ศ. 2544 มีพื้นที่กว่า 22 ตารางกิโลเมตร ยาว 13 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำและพืชน้ำนานาชนิด พบนกน้ำกว่า 100 ชนิด รวมทั้งปลาบู่แคระที่หาดูได้ยาก บึงโขงหลงเป็นที่พักอาศัยของนกอพยพมากกว่า 30 ชนิด
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่บ้านดอนเสียด ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา น้ำตกเจ็ดสีเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในฤดูฝน น้ำตกเกิดจากธารน้ำของห้วยกะอาม ไหลมาตามหน้าผาหินทรายสูงและแผ่กว้างเป็นทางยาว ละอองน้ำเมื่อกระทบกับแสงแดดทำให้เกิดเป็นสีรุ้ง จึงเรียกว่า น้ำตกเจ็ดสี
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่บริเวณบ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา อยู่ห่างจากอำเภอเซกา 34 กิโลเมตร มีน้ำเฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น บริเวณน้ำตกเงียบสงบและร่มรื่น เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ เมื่อเดินขึ้นมาบนลานหินด้านหลัง จะพบหุบเขาแอ่งกระทะขนาดกว้างประมาณ 200 ตารางเมตร น้ำตกจะไหลผ่านหน้าผากว้างราว 100 เมตร สูงประมาณ 50 เมตร และไหลรวมกันยังแอ่งเบื้องล่าง สามารถลงเล่นน้ำได้