นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก ร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 ยืนยันที่จะใช้อัตราภาษีเดิมต่อไป ส่วนกรณี ที่ พ.ร.ฎ.ปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มจะหมดอายุในวันที่ 30ก.ย. รัฐบาลยังมีเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบและไม่ผลักภาระให้ประชาชน ที่สำคัญการดำเนินการในช่วงนี้จะต้องขออนุมัติและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ มิเช่นนั้นอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ม.181ที่ระบุว่ารัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัตินโยบายใดๆ ที่จะผูกพันไปยังรัฐบาลใหม่หรือนโยบายที่เป็นเรื่องหาเสียงหรือประชานิยม จึงมีความระมัดระวังและคิดว่าเรื่องนี้หากจะมีการดำเนินการใดๆ ก็ต้องสอบถามไปยัง กกต.ก่อน
ด้านนายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึง แนวทางจัดเก็บภาษีและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะทำให้รายได้โดยรวมต่ำกว่าเป้าหมาย 2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกรมสรรพากร จัดเก็บภาษีรายได้รวมใน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ต.ค.2556-มี.ค.2557) จำนวน 7 หมื่น5,613 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,597 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการนำเข้าลดลงกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพราะการส่งออกยังชะลอตัว ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศยังอยู่ในระดับสูงเกินเป้าหมาย ดังนั้นหากกรมสรรพากร เร่งดำเนินแนวทางจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย 1.89 ล้านล้านบาท จากเดิมคาดว่าภาษีจะลดลงต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 10 โดยที่ประชุมเห็นชอบให้กรมสรรพากรเดินหน้ามาตรการจัดเก็บภาษีอย่างเข้มงวด