นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 1 พ.ค.64 ไลน์หมอพร้อม จะเปิดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค ได้ลงทะเบียนเพื่อจองคิววันฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา จำนวน 16 ล้านคน โดยระบบจะเปิดรับเฉพาะกลุ่มเป้าหมายนี้เท่านั้น เริ่มต้นฉีดวัคซีนในเดือนมิถุนายนนี้
โดยในไลน์หมอพร้อม เมื่อเพิ่มเพื่อนในไลน์แล้ว ให้ลงทะเบียนโดยการกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และเลือกวันเวลาที่สะดวกจะไปรับวัคซีน โดยระบบจะมีการแจ้งเตือนวันที่นัดรับวัคซีน รวมทั้งสามารถเปลี่ยนวันนัดได้ กรณีมีธุระเร่งด่วน หรือกรณีผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดการใช้ไลน์ สามารถให้ลูกหลานช่วยลงทะเบียนให้ได้
ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรืออินเตอร์เน็ต สามารถแจ้งโรงพยาบาลที่เคยไปรักษา โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดง เมื่อโรงพยาบาลตรวจสอบแล้วอยู่ในกลุ่มเป้าหมาย 16 ล้านคน ก็จะลงทะเบียนให้และนัดวันฉีดวัคซีน หรืออาจจะแจ้งกับ อสม.หมู่บ้าน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร เพื่อลงชื่อขอรับวัคซีนก็ได้
ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า การลงทะเบียนขอจองคิวฉีดวัคซีน ไม่จำเป็นต้องแย่งกันลงในวันที่ 1 พ.ค.64 แต่สามารถทยอยลงทะเบียนได้ เพราะวัคซีนมีเพียงพอสำหรับกลุ่มเป้าหมายทุกคน และหากมีปัญหาขลุกขลักในการลงทะเบียน หรือการให้บริการ ก็ขอให้เห็นใจบุคลากรที่ทำงาน เพราะอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับระบบ ทำให้ล่าช้าบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพยายามให้บริการประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุด
ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไป ที่อายุ 18-59 ปี และไม่ได้เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว จะเปิดให้ลงทะเบียนจองรับวัคซีน ในเดือนกรกฎาคมนี้ และเริ่มฉีดในเดือนสิงหาคม
ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ 2 ล้านเม็ด ที่มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 เมษายน ได้กระจายไปยังสถานพยาบาลที่ต้องการใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว ขณะนี้ยังเหลือยาคงคลังอยู่ 1 ล้าน 5 แสนเม็ด โดยมีความต้องการใช้ยาวันละ 4-5 หมื่นเม็ด และในเดือนพฤษภาคมนี้ องค์การเภสัชกรรมได้สั่งยาเข้ามาเพิ่มเติมอีก 3 ล้านเม็ด และจะทยอยสั่งซื้อเพิ่มจนกว่าจะสามารถผลิตยาเองได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วย
ในส่วนของวัคซีน ช่วงวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ จะได้รับวัคซีนจากบริษัทซิโนแวคอีก 1 ล้านโดส จากนั้นกลางเดือนจะมีวัคซีนบริจาคจากประเทศจีนอีก 5 แสนโดส และในช่วงสิ้นเดือน องค์การเภสัชกรรมสั่งวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 2 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ไทยจะมีวัคซีนซิโนแวคใช้งานจำนวน 3 ล้าน 5 แสนโดส จากนั้นในช่วงเดือนมิถุนายน จะมีวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาเข้ามา