กรุงเทพมหานคร กำชับสำนักงานเขตลงพื้นที่ค้นหาผู้ป่วยเพื่อแยกเข้ารับการดูแลรักษาที่ศูนย์พักคอยฯ

          ในวันนี้ (15 ส.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตหลักสี่ 2 ณ อาคารสุทธิเกตุ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เขตหลักสี่ และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตจตุจักร ณ โรงซ่อมบำรุงรถไฟ สถานีกลางบางชื่อ ซึ่งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแห่งที่ 3 ในพื้นที่เขตจตุจักร

          กรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อแยกผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว คือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยที่ไม่สามารถรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่พร้อม ให้มาพักคอยที่ศูนย์ฯ เพื่อดูแลอาการเบื้องต้น ระหว่างรอนำส่งโรงพยาบาล 

          โดยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 168 คนรวมถึงผู้ป่วยแบบครอบครัว 8 เตียง มีโรงพยาบาลปิยะเวท เป็นโรงพยาบาลที่ปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา

          ส่วนศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ณ โรงซ่อมบำรุงรถไฟ สถานีกลางบางซื่อ เขตจตุจักร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง ซึ่งเปิดให้บริการแล้วแต่ยังไม่มีผู้ป่วยเข้าพัก มีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เป็นโรงพยาบาลที่ปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา

          ผู้ป่วยที่จะเข้าพักที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง หากไม่ได้รับความสะดวกสามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิดเขตพื้นที่ทั้ง 50 เขต โดยสายด่วนโควิด เขตหลักสี่ โทร. 0 2026 6800 สายด่วนโควิด เขตจตุจักร โทร. 0 2026 3100

          นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ได้กำชับให้สำนักงานเขตลงพื้นที่เชิงรุกค้นหาผู้ป่วยที่ไม่สามารถพักรักษาตัวที่บ้านให้มาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ โดยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (CI) จะรับผู้ป่วยสีเขียว และโรงพยาบาลสนามจะเปลี่ยนมารับผู้ป่วยสีเหลืองเป็นหลัก ซึ่งทั้ง 50 เขตจะมีศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อในพื้นที่ของตนเป็นหลัก แต่หากไม่เพียงพอก็จะมีการรับผู้ป่วยข้ามเขตพื้นที่

...