กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย5คน อายุระหว่าง 22-35 ปี พร้อมของกลางเป็นเครื่องรูดบัตร คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เงินสด500,000บาท และบัตรอีเล็กทรอนิคส์ปลอม732ใบ
หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์รับแจ้งข้อมูลว่าธนาคารในกลุ่มประเทศยุโรป พบการขโมยข้อมูลการเงินของลูกค้าจำนวนมากถูกนำมาเบิกเงินสดในประเทศไทย ซึ่งชุดสืบสวนของกองบังคับการปราบปรามสืบทราบว่า มีขบวนการชาวมาเลเซียขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มผ่านเครื่องสกิมเมอร์ที่ฝรั่งเศส ก่อนนำมาถ่ายข้อมูลลงบัตรเอทีเอ็มปลอม และส่งขบวนการเข้ามากดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มในไทย
เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหา 5คน เมื่อวานนี้ ขณะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่ามีผู้ร่วมขบวนการเข้าประเทศไทยมาทั้งหมด8คน เมื่อวันที่2เม.ย. ทำหน้าที่เพียงรับบัตรATMที่ปลอมข้อมูลแล้ว มากดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มในไทย ที่ผ่านมากดมาแล้วประมาณ50ล้านบาท ในพื้นที่จ.สงขลา กระบี่ ตรัง และเพชรบุรี ก่อนส่งเงินทั้งหมดให้หัวหน้าขบวนการ และได้ค่าเหนื่อยจากยอดร้อยละ10
พ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย รองผกก.กองบังคับการปราบปราม ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม กล่าวว่า แม้ขบวนการนี้อาจจะยังไม่ได้เชื่อมโยงกับการขโมยข้อมูลของชาวไทย แต่รูปแบบการโจรกรรมคล้ายกับขบวนการอื่นๆ ซึ่งจะประกอบด้วยเครื่องสกิมเมอร์ และชุดขโมยรหัสบัตร จึงขอให้ประชาชนที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ควรเลือกตู้ที่อยู่ในสถานที่เปิด และไม่ควรอยู่ในมุมอับ
สำหรับ เครื่องสกิมเมอร์ที่คนร้ายติดที่ตู้เอทีเอ็ม มักจะติดครอบช่องเสียบบัตร เพื่ออ่านข้อมูลจากแถบแม่เหล็กและคัดลอกไปเก็บไว้ก่อนถ่ายลงบัตรเอทีเอ็มปลอม สามารถสังเกตได้ว่าถ้าช่องเสียบบัตรไม่มีไฟกระพริบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจไม่ปลอดภัย
และยังมีอีกส่วนหนึ่ง คือการขโมยชุดรหัสบัตร จะแบ่งเป็น2แบบคือ แบบกล้องรูเข็ม ที่มักติดอยู่ที่กระจกด้านบนแป้นใส่รหัส สามารถป้องกันได้โดยการใช้มือป้องนิ้วขณะกดรหัส ส่วนอีกแบบคือใช้แผ่นคัดลอกลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่า หากแป้นกดรหัสมีขนาดใหญ่หรือสูงผิดปกติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้ว่ามีอุปกรณ์คัดลอกลายนิ้วมือครอบอยู่อีกชั้น