นายกฯชื่นชมทุกหน่วยงานผลักดัน FTA ส่งผลให้มูลค่าส่งออกกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

          นายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA เดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการส่งออกถึง 63,104 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ สูงถึงร้อยละ 78.51 นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงาน และขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมกันส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และเชื่อมั่นว่าจะส่งผลสำคัญต่อความสำเร็จในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

         สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ตลาดที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 อาเซียน (มูลค่า 21,539 ล้านเหรียญสหรัฐ)

อันดับ 2 จีน (มูลค่า 21,372 ล้านเหรียญสหรัฐ)

อันดับ 3 ออสเตรเลีย (มูลค่า 6,891 ล้านเหรียญสหรัฐ)

อันดับ 4 ญี่ปุ่น (มูลค่า 5,784 ล้านเหรียญสหรัฐ)

อันดับ 5 อินเดีย (มูลค่า 3,990 ล้านเหรียญสหรัฐ)

          ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงความตกลง Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP ซึ่งเป็นความตกลงใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565

          รวมทั้งสิ้นแล้ว ประเทศไทยมี FTA ที่มีผลบังคับใช้ 14 ฉบับ

          นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) และนอร์เวย์ ช่วง 10 เดือนแรก มูลค่ารวม 3,151 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าเป็นการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.98 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 63.92

          โดยไทยสามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.11 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ  2,808 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตลาดมีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ที่ร้อยละ 67.47

...

#เอฟทีเอ 

#จีเอสพี