สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ชี้แจง “บริการ เจอ แจก จบ ที่ร้านยา” เป็นความร่วมมือกับสภาเภสัชกรรมในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว มีระบบพิสูจน์ตัวตนผู้เข้ารับบริการ การบันทึกผลผ่านระบบ AMED และใช้วิธีจ่ายตรงร้านยาตามบัญชีที่ลงทะเบียน ไม่จ่ายผ่านคนกลาง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. และ ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า มีร้านยา 700 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการให้บริการแบบผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน หรือ “เจอ แจก จบ” เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก ความร่วมมือกับสภาเภสัชกรรมจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงระบบบริการรักษาโดยสะดวก ลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ซึ่งยังเป็นการเพิ่มการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเหลืองและสีแดง และผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล
สำหรับร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการตามนโยบายนี้ มีหลักเกณฑ์ระบุชัดเจนว่าต้องเป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ และขั้นตอนการเข้ารับบริการจะเหมือนกับการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการอื่นๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คือจะต้องมีการพิสูจน์ตัวตนของผู้รับบริการโดยใช้บัตรประชาชน บันทึกข้อมูลการให้บริการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ระบบบริการการแพทย์ทางไกล ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการบันทึกข้อมูลเพื่อส่งเบิกกับ สปสช.
ในส่วนของการจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับร้านยารายละ 700 บาทนั้น สปสช.วางระบบเป็นการจ่ายตรงเข้าบัญชีของร้านยาตามที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่มีการจ่ายผ่านคนกลาง ซึ่งตามที่ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2565 ขณะนี้ยังมีจำนวนการเบิกค่าบริการเข้ามาไม่มาก มีเพียงราว 1,200 รายเท่านั้น
ขอเรียนไปยังร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการว่า สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงที่ สปสช. และหากพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในขั้นตอนใด ขอให้แจ้งโดยตรงที่เลขาธิการ สปสช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
...
#สปสช
#เจอแจกจบ