+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติไม่อนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สืบพยานเพิ่มเติม 7 ปากในคดีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเห็นว่า พยานบุคคลที่ขอมาเป็นพยานบุคคลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องไปแล้ว และพยานที่ร้องขอมาไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ถูกล่าวหา ตามกรอบการพิจารณาหลังจากนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ไปสรุปสำนวน ข้อเท็จจริง ที่ได้จากการไต่สวนจากการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งพยานบุคคลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้สอบปากคำเพิ่มเติมไปแล้ว ไปสรุปและให้เสนอต่อที่ประชุมองค์คณะไต่สวนในการประชุมครั้งต่อไป คาดว่าจะเป็นวันที่ 6 พ.ค.เพื่อพิจารณาว่าข้อมูลทั้งหมดเพียงพอที่จะวินิจฉัยและอ่านความเห็นขององค์คณะไต่สวนหรือไม่ หลังจากนั้นจะนำเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไปคือวันที่ 8 พ.ค. หรือ วันที่ 15 พ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะลงมติชี้มูลได้หรือไม่
+++ในมุมมองของนายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ วิเคราะห์ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : กรณีความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ว่าหลังศาลไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. อาจวินิจฉัยทันทีในวันที่ 7 พ.ค. หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 13 พ.ค. แนวทางตัดสินมี 2 อย่างคือ นายกฯไม่ผิดตามมาตรา 266 ประกอบมาตรา 268 ยังอยู่รักษาการต่อไป กับผิดตามมาตรา 266 ประกอบมาตรา 268 ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) นายบรรเจิด กล่าวว่า หากศาลให้นายกฯพ้นตำแหน่งก็ต้อง หานายกฯใหม่ตามมาตรา 172 ที่กำหนดให้ดำเนินการให้เสร็จภาย ใน 30 วัน จึงรอกระบวนการเลือกตั้งไม่ได้ กรณีนี้ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเกิดภาวะสุญญากาศ วินิจฉัยแต่เพียงว่าเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯสิ้นสุดลก็จะต้องดำเนินการตามมาตรา 180 วรรค 2 โดยทันทีเพื่อให้ได้นายกฯคนใหม่
+++ขณะที่ นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยเสนอพยานให้ศาลไต่สวน 4 ปาก คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และอดีตเลขาธิการ สมช. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผบ.ตร. แต่ในจำนวนนี้มีเพียง พล.ต.อ.วิเชียร คนเดียวเท่านั้นที่ศาลเรียกไปให้ถ้อยคำในวันที่ 6 พ.ค. ส่วนในวันดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานที่ศาลเรียกไต่สวนด้วย จะเดินทางไปด้วยตัวเองหรือไม่ ทนายความกล่าวว่า อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีเอง การยื่นบันทึกถ้อยคำ เป็นเอกสารที่ยื่นเป็นหลักฐานสำหรับต่อสู้ในประเด็นที่แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจในการใช้อำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งโยกย้ายเลขาธิการ สมช.
+++นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.สายสรรหา ในฐานะผู้ร้อง ยื่นเอกสารบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงต่อศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน ชี้แจง ให้ศาลทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. และการย้าย นายถวิล ออกจากเลขาธิการ สมช. ฉะนั้นเชื่อว่าการโยกย้ายทั้งสองไม่ได้มาจากความสมัครใจ
+++ นายถวิล กล่าวว่า ในวันที่ 6 พ.ค.จะเดินทางเข้าชี้แจงต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง หลังจากที่ได้ยื่นเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรในบางส่วนให้กับศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
+++หลังจากที่ประชุมป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด 36 ส.ว.ประเด็นการแก้ที่มา ส.ว.โดยมิชอบ โดยให้ส่งเรื่องไป ยังวุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนต่อไป นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า ส.ว. 36 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. และได้พิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 และลงมติในวาระที่ 2 โดยเฉพาะมาตรา 6 กรณีให้ ส.ว.ที่พ้นวาระแล้ว ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.ได้ โดยไม่ต้องเว้นวรรค และลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติว่า การกระทำทั้งหมดถือว่ามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 291 (1) วรรคหนึ่ง ส่วนอีก 14 คนให้ยกคำร้อง
+++ช่วงบ่ายวันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คุยกับรัฐบาล กำหนดวันเลือกตั้ง ว่าจะเป็นช่วงใดที่เหมาะสม ต้องติดตามว่าทาง กกต.จะสามารถตกลงกับรัฐบาลเพื่อเดินหน้าเลือกตั้งได้หรือไม่ ประเด็นที่ต้องตามนอกจากวันเลือกตั้ง คือ เรื่องที่เมื่อวานนี้ กกต. หารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งต่อไปควรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน พร้อมเสนอการปฏิรูปให้ กกต. ที่มีอำนาจจัดเลือกตั้ง แต่ปัญหาใหญ่คือ กกต.และตนเห็นตรงกันว่า บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้จะทำให้การเลือกตั้งประสบความสำเร็จยาก การจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องไม่เป็นโมฆะแบบวันที่ 2 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรรับฟังความเห็นที่หารือกับ กกต. พร้อมนำไปพิจารณา อย่าเพิ่งปิดโอกาสโดยการยึดติดว่าต้องเร่งรัดให้เลือกตั้งโดยเร็ว
++ขณะที่ วันนี้ นายอภิสิทธิ์ นัดหารือกับนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล (พช.) หลังจากนี้ จะใช้เวลาสรุปเพื่อทำเป็นข้อเสนอปฏิรูปประเทศ ไปเสนอต่อคู่ขัดแย้ง คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้
+++วันนี้จะมีความชัดเจนว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. จะประกาศแผนการเผด็จศึกครั้งสุดท้ายปิดเกมรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร และกำหนดจะนัดชุมนุมใหญ่วันที่เท่าไหร่ ณ เวทีชุมนุมสวนลุมพินีเวลา 19.00 น. หนึ่งในแผนนี้จะมีการประกาศย้ายเวทีไปปักหลักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนความเคลื่อนไหววันนี้ จะไป ทีโอที จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท แคทเทเลคอม ถนนแจ้งวัฒนะ ให้มาร่วมชุมนุมต่อสู้กับพวกเรา
+++ส่วนพระพุทธะอิสระก็จะไปชวนชาวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) นายสุเทพ กล่าวว่า การต่อสู้จะเริ่มต้นในวันที่ 30 เม.ย. ให้เตรียมความพร้อมสู้ศึกครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้
+++แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นัดชุมนุม 30เม.ย.ที่ จ.อุตรดิตถ์ นับถอยหลังนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 6พ.ค.
+++เวทีความคิดเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 4 หัวข้อ "การปฏิรูปบนวิถีประชาธิปไตย" จะมีตัวแทนภาควิชาการ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ตัวแทนภาคเอกชนและตัวแทนภาคประชาสังคมเข้าร่วมคับคั่ง เริ่มเวลา 09.00-12.00 น.โรงแรมสุโกศล
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งว่า ช่วงที่มีสถานการณ์ความขัดแย้ง อยากให้ทุกฝ่ายลดการพูดจาในเชิงที่ทำให้เกิดความแตกแยก หยุดพูดให้เกิดความแตกแยก และเน้นที่การนำเสนอข่าวด้วย
+++ในส่วนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส. )กล่าวว่า ศอ.รส.จะยังไม่ออกแถลงการณ์ฉบับ 3 ต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ จับตาดูการแถลงของนายสุเทพ ในวันนี้ พร้อมสั่งการให้พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ให้ระดมกำลังรับการแตกหัก แต่ไม่ใช่เป็นการสลายการชุมนุม
+++ ส่วนการดำเนินคดีกับแกนนำกปปส. ศอ.รส.คาดว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะสรุปสำนวนคดีดังกล่าวส่งพนักงานอัยการได้ภายในวันที่ 30 เม.ย. นอกเหนือจากผู้ต้องหาซึ่งเป็นแกนนำ กปปส. 58 รายแล้ว จะมีผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 22 ราย รวมทั้งหมด 80 ราย โดยจะใช้วิธีสรุปสำนวนเพิ่มเติมในภายหลังเป็นอีกสำนวนหนึ่ง
+++อาการนายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ หลังเกิดอาการหน้ามืด สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ มีรายงานว่า ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ทีมงาน รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เปิดเผยว่า นายพีรพันธุ์มีอาการเหนื่อยตั้งแต่วันอาทิตย์ จึงเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ด้วยตัวเอง ทำให้พบปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ นอกจากนี้มีอาการแทรกซ้อน คือ เส้นเลือดที่สมองตีบ ผ่าตัดแล้ว แพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม เพราะยังอยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังจากออกจากห้องผ่าตัด