สำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์จุดยืน ขององค์กรมุสลิมในประเทศไทย ต่อกรณีการฆาตกรรม นายโมฮัมหมัด อัลรูไวรี่ นักธุนกิจชาวซาอุดิอาระเบีย นำโดย นายอาศิส พิทักษคุมพล จุฬาราชมนตรี ซึ่ง กังวลผลกระทบเกิดขึ้นกับประเทศไทยและพี่น้องมุสลิมในอนาคต แถลงการณ์ครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมให้ผู้สูญเสีย
ดร.สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า คณะกรรมการอิสลามมีความเสียใจและเห็นใจครอบครัวนายอัลลูไวรี่ ถูกฆาตกรรมอำพราง12ก.พ.2533 เป็นเวลา24ปี ส่วนการตัดสินคดีตามกระบวนการยุติธรรมยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคม
คณะกรรมกลางอิสลามเคารพคำพิพากษาศาล แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาท่านหนึ่งในองค์คณะก่อนตัดสินเพียงไม่กี่วัน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้อัยการสูงสุดอุทธรณ์คำพิพากษา จากเหตุดังกล่าวทำให้ขณะนี้ ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายกับประเทศซาอุดิอาระเบียและกลุ่มประเทศในโลกอาหรับ ร่วมทั้งประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC 57ประเทศ ส่งผลต่อธุรกิจอุตสาหกรรมส่งออก สินค้าฮาลาลของไทยที่มีสัดส่วนการตลาดสูงเป็นอันดับ5ของโลก
ส่วนการอุ้มฆ่าและหายตัวไปของนายอัลลูไวรี่ นั้น ไม่เป็ป็นกรณีเดียวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยยังมีคดีแบบเดียวกันอีกจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล ทบทวนบทบาทและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพแท้จริง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องสูญเสียภาพลักษณ์แลขาดความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ
ดร.สุชาติ ยืนยันว่า การที่ออกมาเรียกร้อง คดีอัลรูไวรี่ นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นความห่วงใยความสัมพันธ์ ระหว่าง ประเทศไทย กับ ซาอุดิอารเบีย ซึ่งมีข้อมูลว่า ทางการ ซาอุดิอาระเบีย หารืออาจจะขอตัดความสัมพันธ์ทางการทูต กับประเทศไทย ดังนั้นองค์ศาสนา เหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้