*กกพ.มีมติขึ้นค่า เอฟที 10 สต. ต่อหน่วย ขณะที่กฟผ.รับภาระ 3.94สต. ช่วยประชาชน*

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.2557) ในอัตรา 10 สต.ต่อหน่วย จากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอมากว่า 13.94 สต.ต่อหน่วย โดยให้ กฟผ. รับภาระต้นทุนส่วนที่เหลือ 3.94 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,247 ล้านบาท เป็นการชั่วคราว

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ภาระที่ กฟผ.รับมาก่อนถือว่าเป็นการแบ่งเบาต้นทุนของประชาชน โดยคาดว่าจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มจะลดลงในงวดหน้า กฟผ.ก็จะได้รับเงินคืนในส่วนนี้ด้วย โดยในงวดที่แล้ว (ม.ค.- เม.ย.) กฟผ.รับภาระไปแล้ว 5 สต.หรือกว่า 1,000 ล้านบาท

 สิ่งที่น่าเป็นห่วงในอนาคต คือ หากไทยยังพึ่งพาก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า เพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้น เพราะต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีและอิงราคาตลาดโลก ดังนั้น ต้องเร่งกระจายเชื้อเพลิง เช่น การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทดแทนแม่เมาะ 4-7 กำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ มูลค่า 28,000 ล้านบาท ล่าสุดมีการตีความแล้วว่าเป็นงบผูกพัน ดังนั้น ต้องเสนอรัฐบาลใหม่จะพิจารณา ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าโรงเก่าอายุ 34 ปี หมดอายุแล้ว หากต้องหยุดเดินเครื่องในปี 2561 และโรงใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องพึงพาโรงไฟฟ้าอื่นผลิตไฟฟ้าทดแทนโดยต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงก็จะทำให้ ต้นทุนแพงขึ้น 5,000 ล้านบาท/ปี และกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่ประชาชนได้รับในที่สุด