2 ปัจจัยสำคัญ กำหนดศก.ครึ่งปีหลัง 'ทิศทางดอกเบี้ยFed-จีดีพีQ2สหรัฐฯ'

25 กรกฎาคม 2565, 08:55น.


          โค้งสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก !!! สัปดาห์นี้คงต้องติดตามเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยข้อมูลผ่านทาง Facebook กอบศักดิ์ ภูตระกูล ถึงรายละเอียดเรื่องที่ต้องติดตาม



1.เรื่องแรก คือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ที่จะเริ่มวันอังคาร  ประชุม 2 วัน แล้วแถลงผลในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันพุธ ทุกคนลุ้นกันว่า Fed จะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหรือไม่ ล่าสุด การสำรวจมุมมองนักลงทุน และ Fed Funds Futures ได้ปรับลดความร้อนแรงลงมาที่ +0.75% สำหรับการประชุมครั้งนี้ หลังจากกรรมการบางคน ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า 0.75% น่าจะเพียงพอสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯจะขึ้นไปที่ 9.1%



        คืนวันพุธ เราคงต้องมาลุ้นว่า



(1) ผลจะออกมาตามคาดหรือไม่ จะมีอะไร Surprise ตลาดหรือไม่



(2) เฟดจะส่งสัญญาณว่าครั้งต่อไป จะขึ้น 0.75% และ 0.5% อีกกี่ครั้ง



(3) ที่สำคัญที่สุด ประธาน Fed จะพูดอะไร จะหลุดอะไรมา ช่วงถามตอบ



- แนวโน้มเงินเฟ้อ : Fed คิดว่าเงินเฟ้อจะ Peak หรือยัง จะสูงกว่า 9.1% อีกไหม ถ้าเงินเฟ้อจะลง จะลงมาเร็วแค่ไหน ต้องลงมาเท่าไร Fed ถึงจะพอใจ



- โอกาสการเกิด Recessions ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน Fed กังวลใจเรื่องนี้หรือไม่ และคิดว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ใช่หรือไม่ Fed จะรับกับคนตกงานได้มากน้อยแค่ไหน และสหรัฐฯ ยังจะ Soft landing ได้หรือไม่



- ทิศทางของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดๆ ไป (หลัง Fed เอาตัวเลขเงินเฟ้อ ทิศทางเงินเฟ้อ ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด เข้ามาประกอบหมดแล้ว)



         เรื่องนี้จะมีนัยยะต่อตลาด เพราะ Implied Overnight Rate ของตลาด (ในตาราง) ยังคาดว่าดอกเบี้ยจะขึ้นไปสูงสุดเพียงแค่ 3.375% ในช่วงปลายปีนี้ แล้วค่อยๆ ปรับลดลงมา





        ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์หลายๆ คน ซึ่งรวมถึง Lawrence Summers อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่คิดว่า "ไม่น่าจะพอ" Fed ยังต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกพอสมควร เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ



         หมายความว่า เฟดกับตลาดกำลังเห็นไม่ตรงกัน และตลาดยังต้องปรับ expectation อีกพอสมควร หลังจาก Fed ค่อยๆ เปิดออกมาว่าคิดอะไรอยู่  ซึ่งที่ตลาดอยากรู้ ก็คือ ถ้าเงินเฟ้อเริ่มลงมาบ้าง เศรษฐกิจเริ่มชะลอชัดขึ้น Fed จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยแบบ Aggressive อีกหรือไม่  เงินเฟ้อต้องลงมาเท่าไร Fed ถึงจะขึ้นแบบปกติที่ 0.25%



         เงื่อนไขของการหยุดขึ้นคืออะไร ที่ Fed บอกว่า "จะขึ้นไปจนเงินเฟ้อสยบนั้น" จะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปแค่ไหน



         ทั้งหมด มารอท่านประธาน Fed เฉลยบางส่วน ในช่วงคืนวันพุธ และมาดูว่า ครั้งนี้ ท่านจะ "ปลอบประโลม" หรือ "ทุบ" ตลาด และตลาดจะปรับตัวอย่างไรครับ



2.เรื่องที่สอง คือตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่จะประกาศในวันพฤหัส  จะติดลบเป็นไตรมาสที่ 2 หรือไม่ ? ล่าสุด การสำรวจของ Bloomberg พบว่า นักลงทุน คาดว่า ตัวเลขจะออกมาระหว่าง -0.6% ถึง 1.2% โมเดลที่พยายามประเมินเศรษฐกิจไตรมาสปัจจุบัน เช่น GDPNow ของเฟด Atlanta ชี้ว่า อาจจะติดลบ



          แม้กระทั่ง ทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ White House ยังต้องออกมาเขียนลง Blog ของทำเนียบขาวเมื่อ 3 วันที่แล้วว่า "ต่อให้ออกมาติดลบเป็นไตรมาสที่สอง ก็ไม่ถือว่าเป็น Recession" การทำเช่นนี้ ถือว่าไม่ปกติ อาจจะเป็นการเตรียมตลาด ดักทาง ก่อนที่ตัวเลขจริงจะประกาศออกมาสัปดาห์นี้ !!!



          นอกจากนี้ Yield Curve สหรัฐฯ ก็ได้ปรับตัวอย่างน่าสนใจเมื่อเทียบกับ 1 เดือนก่อนหน้า จากแต่ก่อน ดอกเบี้ยปรับขึ้นทุกระยะ ล่าสุด ขึ้นเฉพาะช่วงสั้นๆ แต่ช่วงยาวๆ ปรับลดลง  ทำให้ขณะนี้มี Inverted Yield Curve อย่างชัดเจน ซึ่งชี้ว่า มี Recession รออยู่ข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ สอดรับกับข่าวการปรับลดคนงาน ลดการจ้างงานของบริษัทต่างๆ รวมไปถึงการเริ่มปรับลดลงของราคาบ้านในเมืองต่างๆ  ทั้งหมดนี้ เป็นสัญญาณว่า ยาแรงของเฟดเริ่มออกฤทธิ์



          การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังสะสมแรงส่ง ทำให้เศรษฐกิจที่เคยแข็งแรงคึกคัก กำลังหงอยลง และจะมีนัยยะกับทุกคน



          มาลุ้นกันครับว่า สิ่งที่ท่านประธาน Fed จะพูด และตัวเลข GDP จะออกมาอย่างไร เพราะทั้งสองอย่างจะกำหนดทิศทางตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี



 



#ประชุมFed



#จีดีพีไตรมาส2 



#สหรัฐฯ



CR:กอบศักดิ์ ภูตระกูล 

ข่าวทั้งหมด

X