หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern:PHEIC) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญ ชี้การ swab คออาจสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสฝีดาษลิงอาจได้ โดยได้ระบุข้อความว่า
"ข้อมูลนี้บอกว่า การตรวจหาไวรัสฝีดาษลิง อาจใช้ตัวอย่างจากการ swab คอ เหมือนที่เก็บตัวอย่างตรวจโควิดได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ผื่น หรือตุ่มขึ้นที่ผิวหนังแล้วค่อยเก็บตัวอย่างไปทำ PCR ตรวจ ตัวอย่างจากคอ (หรือจากน้ำลาย) สามารถให้ผลบวกก่อนที่จะมีอาการทางผิวหนัง ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสการแพร่เชื้อในสภาวะที่ไวรัสมีอยู่เป็นจำนวนมากได้อย่างดี"
นอกจากนี้ ดร.อนันต์ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ชี้ไม่ได้แพร่ผ่านทางเพศสัมพันธ์เพียงช่องทางเดียว แต่ยังมีอีกหลายช่องทางหลักๆ คือ
1. การสัมผัสโดยตรงกับตุ่มแผล หรือสารคัดหลั่งที่มีไวรัสอยู่
2. การรับเชื้อจากละอองฝอย จากการคุยกันกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย หรือจากกิจกรรมที่อยู่ใกล้ชิดกันมากๆ เช่น การกอดกัน จูบกัน หรือระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
3. ผ่านการสัมผัสสิ่งของ หรือวัตถุที่มีการเจือปนของไวรัสที่ผู้ป่วยไปสัมผัสมา เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า หรือโทรศัพท์มือถือ
4. รับเชื้อผ่านจากแม่สู่ลูกในครรภ์ผ่านทางรก
5. รับจากสัตว์ที่ติดเชื้อ
#ฝีดาษลิง
#โควิด19
CR:เพจ Anan Jongkaewwattana