สธ.เร่งจัดส่ง 'ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB' ให้ทุกพื้นที่ วันนี้นำร่องฉีดให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

27 กรกฎาคม 2565, 15:14น.


          การกระจายภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ Long Acting Antibody (LAAB) ป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ ที่ไทยสั่งซื้อ 2.5 แสนโดส และได้รับลอตแรกแล้ว 7,000 โดส วันนี้เป็นวันแรกที่กระทรวงสาธารณสุข จัดฉีดภูมิคุ้มกัน LAAB ให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนลอตที่เหลือจะทยอยจัดส่งให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดส่ง LAAB ไปให้ทุกพื้นที่เพื่อให้บริการได้โดยเร็วที่สุด



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการคาดประมาณ ประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำจำนวนกว่า 500,000 คน สำหรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB ลอตแรกจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อฉีดให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการฟอกไต ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะหรือไขกระดูกที่ได้รับยากดภูมิ ตามข้อมูลผู้ป่วยที่มีการรวบรวมจัดส่งเข้ามา ซึ่งแต่ละจังหวัดจะดำเนินการกระจายต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ให้สามารถเข้ารับบริการได้สะดวกที่สุด ยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์มีความพร้อมในการใช้ภูมิคุ้มกันตามข้อบ่งชี้ เนื่องจากได้รับการอบรมทำความเข้าใจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว และได้ขอความร่วมมือจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกท่านให้บริหารจัดการการฉีด LAAB โดยพิจารณาการฉีดให้เป็นไปด้วยความเสมอภาค และประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน รวมถึงสังเกตอาการภายหลังได้รับ LAAB ตามมาตรฐาน





        นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นการนำร่องการให้ LAAB แก่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเป็นวันแรก เพื่อสร้างความมั่นใจ โดยภูมิคุ้มกัน LAAB จะมีแอนติบอดี 2 ชนิดบรรจุมา 2 ขวด โดยจะฉีดเข้าที่สะโพกของผู้ป่วยพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการฉีด 1 ครั้งประสิทธิผลในการป้องกันโควิด-19 จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ยืนยันว่า LAAB มีความปลอดภัยและจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ อาการรุนแรง และการเสียชีวิตให้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถติดต่อเข้ารับการฉีด LAAB ได้ที่สถานพยาบาลตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานครกําหนดไว้ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.)ในการนำมาใช้ในการรักษาต่อไปด้วย





       ส่วนประชาชนทั่วไป ย้ำว่า ขอให้เข้ามารับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามกำหนด โดยสามารถฉีดได้ทุก 3-4 เดือน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 ได้ เนื่องจาก ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.5 จากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า หลบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์ BA.2 จึงยังต้องมาฉีดวัคซีนร่วมกับการเข้มมาตรการป้องกันการติดเชื้อ คือ เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และตรวจ ATK เมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง



 



#ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป



#LAAB



#ฉีดให้คนที่มีปัญหาภูมิคุ้มกัน



#โควิด19



CR:กระทรวงสาธารณสุข 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X