หลังจากเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.65) เกิดเหตุไซโลขนาดใหญ่สำหรับบรรจุธัญพืช ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุระเบิดครั้งใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ที่ท่าเรือกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศเลบานอน พังถล่มลงมาบางส่วน เหตุการณ์ล่าสุดนี้ ไม่มีการรายงานเรื่องการได้รับบาดเจ็บ
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่เลบานอน เตือนว่าส่วนหนึ่งของไซโล อาจถล่มลงมาหลังจากที่ส่วนทางเหนือเริ่มเอียง ทางการต้องประกาศเตือนประชาชนให้ระวังฝุ่นละออง
สถานทูตอังกฤษในเลบานอน ทวีตข้อความหลังเกิดการถล่ม เรียกร้องให้ทุกคนที่อยู่ในที่ร่ม ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท และให้สวมหน้ากากป้องกัน KN95 ขณะอยู่กลางแจ้ง และรีบไปให้ถึงสถานที่ปิดโดยเร็วที่สุด
กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนก็ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ไซโลแห่งนี้ ว่าอาจจำเป็นต้องอพยพ เนื่องจากฝุ่นในอากาศ ขอให้ประชาชนรีบเข้าที่ร่ม ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท พร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศ ฉีดน้ำลงมาจากระเบียงอาคารที่อยู่อาศัยหรือสำนักงาน เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งขึ้นมา
นายอาลี ฮามี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและโยธาธิการ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าเขากลัวว่าส่วนอื่นๆ ของไซโลอาจพังทลายลงในไม่ช้า
นายนัสเซอร์ ยัสซิน รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในขณะที่ทางการไม่ทราบว่าส่วนอื่นๆ ของไซโลจะตกลงมาหรือไม่ ส่วนทางใต้มีเสถียรภาพมากกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ทำให้ประชาชนหวนนึกถึงเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 และจะครบรอบ 2 ปี ในวันพฤหัสฯที่ 4 ส.ค.65 คือ เหตุระเบิดครั้งใหญ่ของคลังเก็บสารเคมีที่ท่าเรือเบรุต ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ความรุนแรงคล้ายแผ่นดินไหวขนาด 3 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ราย บาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน และทำให้เกิดการประท้วงรัฐบาลไปทั่วประเทศ หลังมีการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่นำสารอันตรายแอมโมเนียมไนเตรต มากถึง 2,750 ตัน มาเก็บไว้ที่นี่นานกว่า 6 ปีโดยไม่มีการดูแลอย่างเหมาะสม จากนั้นในวันที่ 10 ส.ค.63 คณะรัฐมนตรีเลบานอนลาออกเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง
#ไซโลถล่ม
#เบรุต
#เลบานอน
CR:gulfnews.com,Yahoo News UK