การระบาดของโรคฝีดาษลิงเพิ่มมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ จึงทำให้ระบาดของโรคฝีดาษลิงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจากพื้นที่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ซึ่งเวลานี้ได้ทำการคัดกรองทั้งหมด 2,527 คน นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ส่วนใหญ่โรคฝีดาษลิงพบการระบาดในยุโรปมาจากกลุ่มชายรักชาย และชายหญิงโดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ซึ่งหากมีการป้องกันที่ถูกต้องและปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงโดยการไม่สัมผัสใกล้ชิดและมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงได้
สำหรับการป้องกันตนเองจากโรคฝีดาษลิงในเบื้องต้น
1.ออกห่างจากผู้ติดเชื้อ ผู้ที่สงสัยเสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย
2.สวมหน้ากากอนามัย
3.ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อย ๆ
4.หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝีดาษลิงว่า สถานการณ์ทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2565 มีผู้ป่วยยืนยัน 22,812 คน จาก 75 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีรายงานติดเชื้อ 2 คน ส่วนสถานการณ์การเสียชีวิตจากฝีดาษลิงขณะนี้มี 3 ราย จากสเปน 2 ราย และบราซิล 1 ราย แนวโน้มทั่วโลกเป็นช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะประเทศทางทวีปอเมริกา และยุโรปในหลายประเทศ ส่วนเอเชียเริ่มมีรายงานหลายประเทศ ประเทศที่น่าจะมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ สิงคโปร์ รองลงมาเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์
ส่วนผู้ติดเชื้อ 2 รายในประเทศไทย รายแรกที่เป็นชายไนจีเรีย มีผลตรวจยืนยันตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. ซึ่งไม่ได้รับความร่วมมือและหลบหนีไปกัมพูชา ขณะนี้หายดีแล้ว แต่จากการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในภูเก็ตรวมกว่า 50 รายยังไม่พบผู้ป่วยใหม่ในพื้นที่ แต่ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง ส่วนรายที่ 2 ที่เป็นชายไทย มีประวัติใกล้ชิดกับชายต่างประเทศ และได้สอบสวนโรคร่วมกับหลายหน่วยงานพบว่า ทุกคนเป็นลบ แต่ก็จะเฝ้าสังเกตอาการจนครบ 21 วัน ส่วนชาวเบลเยียม ที่คาดว่าจะเป็นการติดเชื้อ เบื้องต้นน่าจะออกจากต่างประเทศแล้ว ซึ่งกำลังติดตามจากหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับวัคซีนฝีดาษลิง ต้องย้ำว่าโรคนี้ไม่ได้รุนแรง ไม่ได้ติดต่อง่าย ซึ่งโรคจะต่างกับโควิด-19 จึงไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุก ขณะนี้ ไทยเตรียมนำเข้าวัคซีนฝีดาษลิง เบื้องต้น 1 พันโดส โดยฉีดคนละ 2 โดส ส่วนรายละเอียดการฉีดเว้นห่างเท่าไหร่ และจะเลือกกลุ่มใดในการฉีดนั้นจะมีคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคฯ พิจารณาความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรครุนแรง อาทิ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่นผู้ติดเชื้อเอชไอวี โรคมะเร็งอวัยวะต่างๆ ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกมาภายใน 2 ปี ผู้ที่เป็นโรคที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เด็กอายุน้อยกว่า 8 ปี หญิงตั้งครรภ์ /ระหว่างให้นมบุตร เป็นต้น
#ฝีดาษลิง
มีผู้เสียชีวิต 3 รายจากเหตุอาวุธํปืนในสวีเดน
...
เสี้ยววงเดือนแดงเผย อิสราเอลปล่อยตัวแพทย์ชาวกาซาแล้ว
...
การจ่ายกระแสไฟฟ้าในสเปนและโปรตุเกสกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
...
ข่าวทั้งหมด
