สถานการณ์โควิด-19 น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดเป็นไปตามคาดการณ์ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เริ่มคงตัว ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตคงตัว และเริ่มมีแนวโน้มค่อยๆ ลดลงใน 2-3 สัปดาห์ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ซึ่งขณะนี้การระบาดเป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ค่อนข้างดื้อต่อวัคซีน การฉีดเข็มกระตุ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้
การใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปหรือภูมิคุ้มกันออกฤทธิ์ชนิดยาว (Long Acting Antibody :LAAB) เหมาะกับประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่ดี โดย 1 กล่องมีภูมิคุ้มกัน 2 ชนิด บรรจุ 2 ขวด ฉีดพร้อมกันครั้งเดียวบริเวณสะโพก ฉีดแล้วมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคโดยตรง อยู่ได้นาน 6 เดือน เบื้องต้นสัปดาห์นี้จะกระจายครบ 7 พันโดสไปทุกจังหวัด และจะเข้ามาจนครบ 2.5 แสนโดสต่อไป ถ้าเราเร่งฉีดจะลดการเสียชีวิตได้
สำหรับ ยาต้านไวรัสเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง มีทั้งข้อดีข้อเสีย หากรับประทานไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม อาจเกิดผลข้างเคียงหรือการดื้อยาได้ ซึ่งขณะนี้เจอปรากฏการณ์ใหม่ คือการรีบาวน์ (Rebound) เช่น กรณีนายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่รับยาต้านไวรัสแต่กลับมาพบเชื้อใหม่ สมมติฐานคืออาจเกิดจากรับยาต้านไวรัสเข้าไป และยาไม่สามารถกำจัดเชื้อในร่างกายคนบางคนให้หมดไป พอหยุดยาเชื้อที่ซ่อนอยู่ก็กลับมาแบ่งตัวขึ้นใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องติดตามรายละเอียดต่อไป
#โควิด19