สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตำหนิการเดินทางเยือนไต้หวัน ของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ โดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านอย่างหนักแน่นจากจีน ซึ่งขัดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยของจีนอย่างมุ่งร้าย และมีส่วนส่งเสริมการยั่วยุทางการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งปลุกเร้าความโกรธเคืองรุนแรงในหมู่ประชาชนจีนและการคัดค้านกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวพิสูจน์อีกครั้งว่าเหล่านักการเมืองสหรัฐฯ บางส่วนกลายเป็น “ผู้ก่อปัญหา” ของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และสหรัฐฯ กลายเป็น “ผู้ทำลาย” สันติภาพข้ามช่องแคบไต้หวันและเสถียรภาพในภูมิภาครายใหญ่ที่สุด
ไม่ว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนหรือสมคบคิดกับกองกำลัง “เอกราชไต้หวัน” อย่างไร สิ่งเหล่านั้นจะสูญเปล่าทั้งหมด และสหรัฐฯ รังแต่จะทิ้งร่องรอยอันน่ารังเกียจของการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ โดยประเด็นไต้หวันเกิดขึ้นยามจีนอ่อนแอและวุ่นวาย และจะจบลงด้วยการฟื้นฟูชาติอย่างแน่นอน
การนำประเด็นไต้หวันเข้าสู่ยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ ซึ่งทวีความตึงเครียดและกระตุ้นการปะทะ ถือเป็นการขัดขวางกระแสการพัฒนาในภูมิภาคและความคาดหวังของประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งสิ่งนี้นับว่าอันตรายและโง่เขลามาก
จีนระบุว่า การที่ฝ่ายสหรัฐฯ อ้างว่าเคยมีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มาเยือนไต้หวันแล้วก่อนหน้านี้ ทว่าข้อเท็จจริงพื้นฐานคือความผิดพลาดในอดีตนั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างเพื่อทำผิดพลาดซ้ำในปัจจุบัน รวมทั้งยังอ้างว่าความพยายามรวมชาติของจีนเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อไต้หวัน ทว่าตรรกะพื้นฐานคือ ไต้หวันเป็นส่วนที่มิสามารถแบ่งแยกได้ของดินแดนจีน และประเด็นไต้หวันถือเป็นกิจการภายในของจีนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องชอบด้วยกฎหมายและชอบธรรมที่จีนจะรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนและต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน
ดังนั้น หลักการจีนเดียวเป็นกำลังหลักในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน และแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ สามฉบับเป็น “ราวกั้น” ที่แท้จริงสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างจีนและสหรัฐฯ
#การเมืองจีนสหรัฐ
CR:สำนักข่าวซินหัว