*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

+++เกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่สถานีรถไฟเมืองอุรุมชี เมืองเอกเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ศพ บาดเจ็บ 79 คน โดย 4 คนในจำนวนนี้อาการสาหัส จุดที่เกิดการระเบิดอยู่บริเวณด้านนอกประตูทางออกสถานี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าตรวจสอบ และระงับการวิ่งให้บริการของรถไฟโดยสารเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดให้วิ่งต่อได้เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกับวันสุดท้ายของการเดินทางเยือนซินเจียงเป็นเวลา 4 วัน ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แต่เบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ขณะเกิดการระเบิด ประธานาธิบดีสียังอยู่ในพื้นที่ หรือเดินทางกลับกรุงปักกิ่งแล้วเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์เกิดความตึงเครียดด้านเชื้อชาติมานาน ระหว่างกลุ่มคนเชื้อสายอุยกูร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิม กับชาวฮั่น เชื้อสายหลักของชาวจีนส่วนใหญ่ ที่อพยพเข้าไปตั้งรากฐานในพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซินเจียง ซึ่งถูกทางการปักกิ่งปราบปรามอย่างหนักและต่อเนื่อง ความขัดแย้งระหว่างชาวอุยกูร์และชาวฮั่นในซินเจียง ปะทุครั้งใหญ่ในเมืองอุรุมชีเมื่อปี 2552 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ศพ ความขัดแย้งยังลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศด้วย.

+++เกิดเหตุการณ์สยองขวัญ มีชายอินเดียคนหนึ่งทราบชื่อว่า นายดูร์เกช กุมาร ซิงห์ วัย 35 ปีราดน้ำมันและจุดไฟเผาตัวเอง จากนั้นยังได้กระโดดเข้าใส่นายคัมรุซซามา ฟาอูจิ นักการเมืองท้องถิ่น ระหว่างมีการถ่ายทอดสดการแสดงความเห็นทางการเมืองของผู้สมัครในการเลือกตั้งท้องถิ่น ผ่านทางสถานีโทรทัศน์  ซึ่งจัดขึ้นที่สวนสาธารณะ ในเมืองสูลตันปูระ รัฐอุตตรประเทศ ทางภาคเหนือ ทำให้ชายคนดังกล่าวเสียชีวิต ส่วนนักการเมืองได้รับบาดเจ็บสาหัส และอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะร่างกายถูกไฟคลอกถึง 80% ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกท่วมร่างชายจุดไฟเผาตัวเองท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจที่ทำให้นายซิงห์ลงมือก่อเหตุการณ์สุดสยองเช่นนี้ แต่จากการสอบถามคนในครอบครัวของเขา อ้างว่านายซิงห์เคยเข้ารับการบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิตมาก่อน

+++ตำรวจเนปาล รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 19 คน จากเหตุรถโดยสารชนประสานงากับรถบรรทุก บริเวณทางหลวงบนเขาทางตะวันตกของเนปาล ทางหลวงจุดที่เกิดเหตุ ทั้งแคบและคนขับส่วนใหญ่มักขับรถเร็ว

+++กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)  เปิดผยว่าเศรษฐกิจรัสเซียเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เพราะได้รับผลกระทบจากการถูกนานาชาติคว่ำบาตรเรื่องยูเครน นายอันโตนิโอ สปิลิมแบร์โก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟประจำรัสเซีย กล่าวว่า เศรษฐกิจรัสเซียหดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะหดตัวอีกในไตรมาส 2 ของปีนี้ การที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกันแสดงว่าเข้าสู่ภาวะถดถอย ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจรัสเซียในปีนี้จากร้อยละ 1.3 เหลือเพียงร้อยละ 0.2 และคาดว่าจะมีเงินทุนไหลออกมากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท)

+++หนังสือพิมพ์หลายฉบับในรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเยือนคาบสมุทรไครเมียเป็นครั้งแรกนับแต่รัสเซียผนวกดินแดนดังกล่าวเมื่อเดือนมี.ค. ประธานาธิบดีปูติน อาจเข้าร่วมพิธีสวนสนามของทหารในวันที่ 9 พ.ค. เนื่องในวันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพิธีสวนสนามจะจัดขึ้นบริเวณจัตุรัสแดง หลังจากนั้นอาจจะเดินทางต่อไปยังคาบสมุทรไครเมีย รายงานระบุด้วยว่า ประธานาธิบดีปูติน อาจเดินทางไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ ซึ่งเป็นการร่วมเดินทางที่ไม่ปรากฏบ่อยนัก

+++สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐเรียกร้องรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ดำเนินมาตรการลงโทษประเทศต่างๆที่ล้มเหลวด้านสิทธิมนุษยชนและไม่ปราบปรามการลักลอบค้ามนุษย์อย่างจริงใจ รวมทั้งไทยและมาเลเซีย ส่วนเมียนมาร์ก็จะไม่ได้รับการละเว้นเช่นกันและไม่น่ารอดจากการถูกคว่ำบาตร จากกรณีนี้ นายคริสสมิธ ส.ส.สหรัฐจากพรรครีพับลิกันอ้างรายงานต่อคณะอนุกรรมการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่พิจารณาการจัดระดับและรายงานประจำปีของกระทรวงต่างประเทศว่าด้วยการค้ามนุษย์ ในกรณีของไทย ว่า ทางการไทยได้ขายชาวโรฮิงญาให้แก่ขบวนการค้ามนุษย์จนกว่าจะมีญาตินำเงินมาเป็นค่าไถ่ แต่คนที่ไม่มีเงินจ่ายจะถูกขายต่ออีกทอดหนึ่งเพื่อเป็นทาสบำเรอกามหรือใช้แรงงานอย่างหนักและชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากการถูกละเมิดทางร่ายกายหรือตายเพราะป่วยหนัก สหรัฐจัดอันดับกลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ประจำปี ไทยและมาเลเซีย อยู่ในระดับที่3 กลุ่มประเทศที่ไม่ดำเนินการตามมาตรฐานและล้มเหลวในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ซึ่งกลุ่มนี้มีโอกาสเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ

+++สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซีย รายงานอ้างนายฮิชามมุดดิน ฮุนเซน รักษาการรัฐมนตรีขนส่งว่า ทางการมาเลเซียจะเผยแพร่รายงานเบื้องต้นในวันนี้ เรื่องการสูญหายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 หลังหายไปเกือบ 2 เดือนแล้ว นายฮุสเซน กล่าวว่า จะมีการเผยแพร่รายงานให้สาธารณะชนได้รับทราบ มาเลเซียถูกกล่าวหาจากญาติๆของคนบนเครื่องทั้ง 239 คนว่า ปกปิดข้อมูล แต่มาเลเซียปฏิเสธว่าไม่จริง

+++แพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอันซานของเกาหลีใต้ แถลงว่า นักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รีเซวอลล่มได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 70 คน เหลืออีก 4 คน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเด็ก โดยยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเรือล่มอย่างเป็นทางการ ขณะนี้อยู่ที่ 210 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนและครู

+++ตำรวจมาเลเซียประกาศว่า จะอนุญาตให้มีการชุมนุมคัดค้านการขึ้นราคาสินค้าในวันแรงงาน ซึ่งจะมีนายอันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่ายค้าน เข้าร่วมด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่าการประท้วงดังกล่าวจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย คาดว่าจะมีประชาชนหลายพันคนเข้าร่วมการประท้วงเพื่อคัดค้านการขึ้นราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อในมาเลเซียเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 2.1 ตลอดปีที่แล้ว เป็นร้อยละ 3.4 ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากรัฐบาลลดเงินอุดหนุนเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณ ทางการมาเลเซียสั่งห้ามการประท้วงหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่ประชาชนยังคงเดินหน้าจัดการประท้วงและจบลงด้วยการปะทะกับตำรวจด้วยความรุนแรง

+++สหภาพแรงงานอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า คนงานหลายหมื่นคน จะเดินขบวนเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงที่กรุงจาการ์ตาในวันแรงงานซึ่งตรงกับวันที่ 1 พ.ค. คาดว่า คนงานราว 1 แสน 20,000 คนจะเดินขบวนไปยังย่านใจกลางเมืองและไปรวมตัวกันที่นอกพระราชวังและอาคารรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงร้อยละ 30

+++สมเด็จพระราชาธิบดีฮัญจี ฮัสซานัล โบลเกียห์ของบรูไน ทรงประกาศในพระราชกฤษฎีกาว่า กฎหมายอาญาอิสลามที่มีบทลงโทษเข้มงวดจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายอิสลามระยะที่ 1 จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ส่วนระยะอื่น ๆ จะบังคับใช้ตามมา กฎหมายนี้เป็นสิ่งจำเป็นตามศาสนาอิสลาม ไม่ใช่ความโหดร้ายตามที่มีการพูดถึงกันไม่จบสิ้น สมเด็จพระราชาธิบดีทรงประกาศในเดือนตุลาคมปีก่อนเรื่องจะบังคับใช้กฎหมายอาญาอิสลามเนื่องจากอัตราการก่ออาชญากรรมในประเทศสูงขึ้นและอิทธิพลเลวร้ายจากโลกภายนอก กฎหมายระยะแรกกำหนดโทษปรับหรือจำคุกในความผิดตั้งแต่การประพฤติตัวไม่เหมาะสม การไม่ไปละหมาดที่มัสยิดในวันศุกร์ และการตั้งครรภ์นอกสมรส จากนั้นจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายระยะที่ 2 ภายในปีนี้ เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เช่น ตัดแขนขา เฆี่ยน ส่วนบทลงโทษรุนแรง เช่น การขว้างด้วยก้อนหินจนตายสำหรับความผิดมีชู้

 +++เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง เพิ่มเติมอีก 2 ศพ เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 16 คน ส่งผลให้ยอดตายรวมพุ่งเป็น 107 ศพแล้ว ขณะที่แพทย์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ลาออกไปแล้วถึง 4 คน เนื่องจากกลัวติดเชื้อจนไม่กล้ารักษาคนไข้

+++ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดีดตัวขึ้นนับตั้งแต่นี้ หลังผ่านพ้นวิกฤตสภาพอากาศหนาวเหน็บ ก็ช่วยผลักให้ดาวโจนส์วานนี้ ปิดแตะระดับสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 45.47 จุด  ปิดที่ 16,580.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.62 จุด ปิดที่ 1,883.95 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 11.02 จุด ปิดที่ 4,114.56 จุด

+++การที่เฟด เห็นว่าจะยังคงเดินหน้าค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ประกอบกับการขยายตัวที่หยุดชะงัก ฉุดให้ราคาทองคำ ปิดลบในกรอบแคบๆ  ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 1,295.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ส่วนราคาน้ำมัน ลงแรง หลังเศรษฐกิจไตรมาสแรกของสหรัฐฯหยุดชะงัก สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 91 เซนต์ ปิดที่ 108.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล