นายกรัฐมนตรี ซานนา มาริน นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ เดินทางเยือนออสเตรเลีย และกล่าวบรรยายที่สถาบันวิชาการในซิดนีย์ (Lowy Institute) ยอมรับว่า ยุโรปไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับรัสเซียที่รุกรานยูเครนเพียงลำพัง ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และยุโรปจะต้องมีการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น
ตามรายงานของสถาบันวิจัยเยอรมนี ระบุว่า สหรัฐฯเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่ที่สุดแก่ยูเครนนับตั้งแต่เริ่มสงครามในเดือนกุมภาพันธ์ ได้ให้การสนับสนุน 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร
นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ กล่าวว่า การส่งอาวุธสนับสนุนยูเครนกำลังส่งผลกระทบต่อคลังอาวุธของยุโรป จึงต้องมีการสนับสนุนการป้องกันยุโรปมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ประเภทต่างๆ ได้
เมื่อครั้งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขามักจะวิจารณ์ประเทศยุโรป ในกลุ่มนาโตว่ามีการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศน้อยเกินไป โดยในปี 2563 สหรัฐฯมีการใช้จ่ายด้านการป้องกันร้อยละ 3.7 ของ GDP ขณะที่ยุโรป และแคนาดามีการใช้จ่ายที่ร้อยละ 1.77
ทั้งนี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีมารินได้วิพากษ์วิจารณ์บางประเทศในยุโรปว่ามีความใกล้ชิดกับรัสเซียมากเกินไป เพื่อหวังป้องกันสงคราม แต่ในวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นแนวความคิดที่ไม่ถูกต้อง
ฟินแลนด์มีพรมแดนพื้นดินติดต่อกับรัสเซีย 1,271 กิโลเมตร และพื้นน้ำ 54 กิโลเมตร เคยยึดมั่นต่อนโยบายเป็นทางกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน จึงสมัครเป็นสมาชิกนาโตอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม พิธีสารภาคยานุวัติได้รับการลงนามในเดือนกรกฎาคม แต่ยังไม่ได้รับการให้สัตยาบันจากสมาชิกทุกประเทศ
...
#ฟินแลนด์
#นาโต
#ยูเครน