นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BI มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยมติของ BI จะมีผลให้อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน ขยับขึ้นมาที่ร้อยละ 5.50 จากเดิมร้อยละ 5.25 เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 5 นับแต่เดือนสิงหาคม อีกทั้งเป็นตามคาดการณ์ของตลาดจากการสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ผ่านมา BI ต้องการจะหาทางลดเงินเฟ้อให้ลงมาอยู่ในเป้าคือร้อยละ 3 ภายในสิ้นปีหน้าจากร้อยละ 5.4 ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าเล็กน้อย หลังประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเงินรูเปียห์อ่อนค่าร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คุมเข้มนโยบายการเงิน โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่ง BI คาดว่าค่าเงินรูเปียห์จะแข็งค่า และมีเสถียรภาพมากขึ้นในปีหน้า
ก่อนหน้านี้ เงินเฟ้อของอินโดนีเซียอยู่ที่ร้อยละ 5.95 ในเดือนกันยายน สูงที่สุดในรอบ 7 ปี หลังรัฐบาลอินโดนีเซียปรับเพิ่มตัวเลขการตรึงราคาน้ำมัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ต่อมาเงินเฟ้อค่อยๆลดลง อยู่ที่ร้อยละ 5.42 ในเดือนพฤศจิกายน แต่ยังสูงเกินเป้าที่ BI ตั้งไว้ในปีนี้คือ ร้อยละ 4 และคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 5.4 ในเดือนนี้
ส่วนแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดว่า จีดีพีของอินโดนีเซียจะเติบโตระหว่างร้อยละ 4.5-5.3 ในปีนี้
#ธนาคารกลางอินโดนีเซีย
#ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
#เงินเฟ้อ