นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะรักษาการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะโฆษกประจำตัวของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว "ความจริงเรื่องกล้อง cctv การติดตั้ง จำนวนกล้อง การขอดูภาพจากกล้อง หลังจากมีการกล่าวหาว่ามีกล้องดัมมี่ กล้องชำรุดของ กทม.จำนวนมาก
โฆษก กทม.กล่าวว่า ตามนโยบายผว.ทม.ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อดูแลคามปลอดภัยให้ประชาชน ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมาขอภาพเพื่อประกอบงานด้านสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่ากทม.ไม่มีกล้องดัมมี่และไม่มีกล้องดัมมี่แม้แต่ตัวเดียว แต่หากใครพบเห็นว่ากทม.ติดตั้งกล้องดัมมี่มีเงินรางวัลได้1แสนบาท ยอมรับว่ากล้องดัมมี่เคยมีในสมัยก่อนที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร จะเข้ามามารับตำแหน่ง ผว.กทม.เนื่องจากข้อจำกัดทางงบประมาณ แต่พอรับตำแหน่งสั่งยกเลิกและเพิ่มกล้องCCTV ให้ทั่วกรุงเทพให้ได้50,000ตัว
ด้านนายอมรกล่าวว่า ขณะนี้มีการติดตั้งแล้ว47,064ตัว แต่ยังไม่ได้มีการเชื่อมกระแสไฟฟ้าประมาณ7,000ตัว ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของผู้รับเหมาทั้งหมดภายในสิ้นปีตามสัญญา ซึ่งการไฟฟ้าจะทำการเชื่อมกระแสไฟฟ้าให้ต่อเมื่อมีการติดตั้งทั้งตัวกล้อง กล่องรับสัญญาณและเสาไฟให้ครบองค์ประกอบ
จากขัอมูลพบว่า ตั้งแต่พ.ศ. 2551-ปัจจุบัน มีสถิติการขอภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) โดยประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประกอบในคดีความ4,815 ครั้ง ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญ ยกตัวอย่างคดีน้องการ์ตูนที่หายไป โดยสืบหาคนร้ายได้จากภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ของกรุงเทพมหานครที่ติดตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS