+++ที่ประชุมวุฒิสภา ในวันนี้รับญัตติของนายวันชัย สอนศิริ สว.สรรหา ที่เสนอเรื่องที่จะเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ และ รองประธาน รวมถึงเรื่องการเลือกคณะกรรมาธิการ 22 คณะ จากนั้นนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฎิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา สั่งปิดการประชุม เนื่องจากเห็นว่า ในวันนี้ ประชุมยาวนานกว่า 7ชม. โดยการประชุมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่9 พ.ค.เวลา13.30น.
+++ขณะที่ คณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กำหนดกรอบการทำงานเพื่อตรวจสอบ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป.ป.ช. วันที่ 7 พ.ค. คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาข้อมูลและข้อเรียกร้องทั้งหมด พร้อมเชิญ น.ส.สุภา และผู้ร้องเรียน มาชี้แจงในวันเดียวกัน ส่วนวันที่ 8 พ.ค. คณะกรรมาธิการฯ จะร่างรายงานการตรวจสอบทั้งหมด เพื่อส่งเข้าสู่บรรจุวาระการประชุมวุฒิสภา พิจารณาเห็นชอบ วันที่ 9 พ.ค.สำหรับข้อมูล ข้อร้องเรียนต่างๆ ที่เกี่ยวกับ น.ส.สุภา สามารถส่งมาได้ที่ สำนักกำกับและตรวจสอบ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
+++นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "คุณธรรม จริยธรรม ผู้บริหาร" ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สถานการณ์เรื่องการทุจริตของประเทศไทย เปรียบเหมือนเป็นมะเร็ง ระยะที่ 4 แต่อย่าสิ้นหวัง ในอดีต 30-40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นเบอร์ 1 แต่ขณะนี้กลายเป็นตัวตลกอาเซียน เห็นได้จากการจัดลำดับต่างๆ ที่ไทยจะอยู่ท้ายๆ ดังนั้น อย่าปล่อยให้โรคร้ายกินไปเรื่อยๆ ต้องทำ 2 เรื่องเร่งด่วนคือ 1. ขจัดคอร์รัปชันให้เหลือน้อยที่สุด 2. ช่วยกันฉีดวัคซีนคุณธรรมให้เร็วที่สุด เชื่อว่าประเทศไทยฟื้นได้ เพื่อระงับมะเร็งร้าย ปัจจุบันสังคมไทยยอมคนรวยมากกว่าคนดี เกรงใจคนโกง อุปถัมภ์คนผิด มีการเปรียบเทียบว่าเป็นทุนสามานย์ที่จ้องเอาเปรียบ จึงต้องเปลี่ยนเป็นทุนนิยมคุณธรรม หมุนกงล้อความเสื่อมให้เป็นคุณธรรม ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยกันปลุกจิตสำนึกความเป็นชาติ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีเพื่ออนาคตลูกหลาน ระบบตำรวจต้องเป็นกลาง เป็นที่พึ่งประชาชน ไม่ใช่เครื่องมือนักการเมือง ซึ่งขณะนี้ลามไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอแล้ว อัยการต้องเชื่อถือได้ ยอมตายกับความศักดิ์สิทธิ์ ศาลก็มีความสำคัญมาก รวมทั้งสื่อมวลชนต้องมั่นคง ไม่ถูกซื้อ ที่สำคัญประเทศต้องมีฝ่ายค้านที่เก่ง เข้มแข็งถึงจะต่อต้านการทุจริตได้ ขอให้ทุกคนกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด
+++นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะคณะทำงานเดินหน้าปฏิรูป กล่าวว่า ต้องการให้พรรคการเมืองกลุ่มการเมืองเปลี่ยนโหมดออกจากการแข่งขัน ดูประเด็นร่วมของการปฏิรูป การออกพระราชกฤษฎีกาวันเลือกตั้ง 20 ก.ค.นี้ ต้องเป็นการเลือกตั้งที่มีบรรยากาศลดความขัดแย้ง ถ้ากำหนดวันกระชั้นมากก็ทำให้ต้องเร่งดำเนินการซึ่งเครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปมีความกังวล อยากให้การเลือกตั้งควรทำคู่กับการปฏิรูป ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและประกาศไม่ลงเลือกตั้ง มองว่า อีกฝ่ายก็จะมองด้วยความระแวง ไม่มั่นใจและอาจทำให้แนวคิดดีๆ ไม่ได้รับการตอบรับ ถ้าเชื่อว่าปฏิรูปเป็นทางร่วม ก็ควรหาเวทีเป็นทางออกโดยไม่มีความสงสัย เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป กังวลว่า การแก้ปัญหาแบบลงลึก เชิงโครงสร้าง จะแก้โดยคู่ขัดแย้งไม่ได้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องเสียสละไม่เข้ามาขัดขวางและให้การส่งเสริม
+++พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัล พร้อมกล่าวชมเชยทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 จำนวน 3 นาย ที่เข้าช่วยเหลือเด็ก 7 ขวบจมน้ำจนรอดชีวิตว่า เป็นแบบอย่างที่ดีแก่กำลังพลทุกระดับชั้น แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาสและไม่เลือกปฏิบัติ
+++นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวยอมรับ กรณีที่มีกระแสข่าวนปช.เตรียมเลื่อนวันชุมนุมจากวันที่ 5พ.ค.ไปเป็นวันที่ 10 พ.ค.ว่า เป็นความจริง แต่กำหนดวันใหม่ที่ชัดเจนให้รอ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แถลงอย่างเป็นทางการในการชุมนุมย่อยที่ จ.สุพรรณบุรี ในช่วงเย็นวันนี้
+++พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผบ.ตร.) ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของจนท.ตำรวจในพื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้เน้นย้ำให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองจ.สระแก้ว สกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายอย่างเข้มงวดและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องกรณีปัญหาชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ลักลอบเดินทางข้าประเทศไทย ได้ให้นโยบาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจังแล้ว
+++เจ้าหน้าที่สืบสวนหาสาเหตุการอับปางของเรือเซวอล ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า บริษัทจงแฮจินมารีน ผู้ให้บริการเรือเซวอล มัวแต่การปกปิดซ่อนหลักฐานว่าเรือบรรทุกน้ำหนักเกิน แทนที่จะหาทางช่วยเหลือผู้โดยสาร ผลการสืบสวน ชี้ว่า ลูกเรือได้โทรศัพท์ไปแจ้งที่บริษัทจงแฮจิน มารีน เมื่อเวลาประมาณ 09.38 น. หรือราว 50 นาที หลังจากเรือเซวอลเริ่มจม เพื่อแจ้งให้ทราบว่า เรือเอียงและกำลังจะจมอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เรือกู้ภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ลูกเรือที่รับผิดชอบด้านสินค้า ได้โทรศัพท์ไปหาผู้บังคับบัญชาที่บริษัทจงแฮจิน และแจ้งว่า การบรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะเป็นการดีกว่า ถ้าแก้ไขเอกสารให้กลายเป็นว่า เรือบรรทุกสินค้าน้อยกว่าความเป็นจริง หลังจากนั้น ลูกเรือกับผู้บังคับบัญชาก็มีการโทรศัพท์หากันอีกหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่พูดเรื่องการอพยพผู้โดยสาร
+++พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน หัวหน้าสำนักงานประสานความร่วมมือของออสเตรเลีย แกนนำในการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่สูญหายของมาเลเซียแอร์ไลน์ กล่าวว่า ออสเตรเลียจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมกับมาเลเซียและจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดแนวทางการค้นหาเครื่องบินต่อไป หลังทีมค้นหานานาชาติ ตัดสินใจลดขนาดการค้นหาในหาสมุทรอินเดีย และไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่าเครื่องบินตกในบริเวณนั้น อีกทั้งเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
+++หุ้นไทย ปิดตลาด บวก 6.54 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,421.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 31,072.14 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่การซื้อขายเบาบางก่อนช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในคืนนี้ ดัชนีนิกเกอิลดลง 27.62 จุด ปิด 14,457.51 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.70 จุด ปิดที่ 22,260.67 จุด