นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการกำหนดไปแล้วราวร้อยละ 70 มีผลการดำเนินงานที่เป็นบวกต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งผู้บริหารการบินไทยมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 ก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเป็นบวกมากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเข้าเกณฑ์กำหนดของการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งหมายถึงการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการก่อนเป้าหมายกำหนดในปลายปี 2567 และกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายในปี 2568
นายกรัฐมนตรีขอบคุณและชื่นชมคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย (จำกัด) มหาชน ที่ได้กำกับเดินหน้าแผนฟื้นฟูกิจการฯ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอบคุณผู้บริหารตลอดจนพนักงานของการบินไทยทุกฝ่ายทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้การบินไทยกลับมาแข็งแกร่ง สามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ก่อนเป้าหมายที่วางไว้ ขอให้กำลังใจการบินไทย คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานการบินไทย ขอให้ทำต่อไปให้ดีที่สุด ให้การบินไทยกลับมาดำเนินกิจการอย่างเต็มขีดความสามารถ สมกับที่เป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยภาคภูมิใจ
ภาพรวมการดำเนินงานในปัจจุบัน การบินไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณร้อยละ 80 และคาดว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันนี้ทั้งปี 2566
รายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตราวร้อยละ 40 จากปี 2565 ที่คาดการณ์รายได้ 90,000 ล้านบาท ซึ่งเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่การบินไทยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 160,000 ถึง 170,000 ล้านบาทต่อปี
ด้านความสามารถทำการบิน มีการบินที่ร้อยละ 65 ของเส้นทางบินทั้งหมด หากเทียบกับปี 2562 และมีแผนจะทยอยเปิดบินเพิ่มเติมต่อเนื่องในเส้นทางเอเชีย จีน ญี่ปุ่น และยุโรปในเมืองที่มีความนิยมสูง ซึ่งจะทำให้การบินไทยกลับมาเปิดบินคิดเป็นร้อยละ 80 ในปี 2568
และจากการที่มีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้น การบินไทยได้เปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกว่า 300 อัตราเมื่อเดือนมกราคม 2566
ขณะนี้การบินไทยกำลังพิจารณาจัดหาเงินทุนอีก 25,000 ล้านบาท ซึ่งยังต้องรอประเมินสถานการณ์ทางการเงินประกอบการพิจารณา เนื่องจากปัจจุบันการบินไทยมีกระแสเงินสดเข้ามาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัท การบินไทยฯ รายงานผลการดำเนินการไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงาน ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 3,920 ล้านบาท เทียบจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,310 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 32,860 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 582 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่กว่า 30,000 ล้านบาทมาจากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า สาเหตุที่รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากธุรกิจการบินเริ่มฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้มีผู้โดยสารเดินทางมากขึ้นร้อยละ 77 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีเพียงร้อยละ 9 เท่านั้น ทำให้การบินไทยได้เพิ่มความถี่ในการบินมากขึ้นในหลายเส้นทาง
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าทั้งในส่วนของเครื่องบินและอื่น ๆ เป็นกำไรจำนวน 6,181 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่ขาดทุน 3,100 ล้านบาท ทั้งนี้ EBITDA สำหรับบริษัทฯ มากกว่า 20,000 ล้านบาทในรอบ 12 เดือนคือเงื่อนไขหนึ่งในการออกจากแผนฟื้นฟู
...
#ฟื้นฟูการบินไทย
#ทำเนียบรัฐบาล