การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี(2 มี.ค.66) หลังจากที่ ราฟาล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯสาขาแอตแลนตา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางที่เขาอยากเห็นเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยการสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% บอสติก กล่าวว่า อยากใช้แนวทางที่เหมาะสม "อย่างช้าๆและมั่นคง" เนื่องจาก ผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยระดับสูง อาจเพิ่งเริ่มต้นรับรู้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การแสดงความเห็นดังกล่าวทำให้หุ้นสหรัฐฯปิดตลาดปรับขึ้น
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 341.73 จุด (1.05%) ปิดที่ 33,003.57 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 29.96 จุด (0.76%) ปิดที่ 3,981.35 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 83.50 จุด (0.73%) ปิดที่ 11,462.98 จุด
ด้าน รีส วิลเลียมส์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของบริษัทสเปาติง ร็อค แอสเซจ แมนเนจเมนต์ ในเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า บอลติกเป็นเจ้าหน้าที่เฟดค่อนข้างสายแข็งกร้าว ดังนั้นการที่เขาสนับสนุนปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จึงเป็นเรื่องน่าเบาใจ เพราะว่าเขาเป็นสายแข็งกร้าว
ขณะที่ ราคาหุ้นของบริษัทเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากเปิดเผย กำไรในไตรมาส4/2565 สูงกว่าคาด บริษัทมีรายได้ 8.26 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนราคาทองคำ ปิดลบเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้ขยับขึ้นมา 3 วันติด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.66 ลดลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,840.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#หุ้นสหรัฐฯ
#คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่มาก
แฟ้มภาพ