ตำรวจจังหวัดฟุกุโอกะ ในญี่ปุ่น ยืนยันการเสียชีวิตของนาย มาโคโตะ ยามาดะ อดีตประธานโรงแรมสไตล์เรียวกัง จากการฆ่าตัวตายในวันนี้ (12 มี.ค.66)
นายยามาดะ เป็นเจ้าของโรงแรม ไดมารู เบสโซ ซึ่งเป็นสไตล์เรียวกัง อายุกว่าร้อยปีของจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งตกเป็นข่าวใหญ่จากการตรวจพบแบคทีเรียลีจิโอเนลลา (legionella bacteria) สูงถึง 3,700 เท่าของขีดจำกัดที่อนุญาตในน้ำบ่อน้ำพุร้อน
ตำรวจเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้พบร่างของนายยามาดะ วัย 70 ปี บนถนนบนภูเขาในเมืองชิคุชิโนะจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และพบจดหมายอำลาอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ๆ ซึ่งนอกจากข้อความขอโทษแล้ว เขายังระบุว่าขอรับผิดทุกข้อตามที่ตำรวจกล่าวหา จึงสันนิษฐานว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
เมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ตำรวจเข้าค้นเรียวกังไดมารู เบสโซ ซึ่งเปลี่ยนน้ำในออนเซ็น หรือบ่อน้ำพุร้อนปีละ 2 ครั้งเท่านั้น จากนั้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายยามาดะเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และขอให้เขามาที่สถานีตำรวจในวันรุ่งขึ้นเพื่อตรวจสอบสิ่งของที่ยึดไว้
นายเออิจิ โคมาดะ ตำรวจจังหวัดฟุกุโอกะ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวแสดงความเสียใจ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อการทำงานของตำรวจ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจังหวัด ได้ไปตรวจสอบเรียวกังเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่พบเชื้อแบคทีเรียสูงกว่าข้อจำกัดถึง 2 เท่า จึงแจ้งให้แก้ไขและเติมคลอรีน แต่ในการตรวจสอบเพิ่มเติมในเดือนพฤศจิกายน กลับพบว่าระดับแบคทีเรียพุ่งสูงถึง 3,700 เท่าของขีดจำกัด จังหวัดฟุกุโอกะ จึงเร่งให้มีการแก้ไข
ในการแถลงข่าวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นายยามาดะยอมรับว่าเขารายงานเท็จต่อสาธารณสุข ทั้งที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นคนบอกกับพนักงานว่า “ไม่เปลี่ยนน้ำก็ไม่เป็นไร เพราะมีคนใช้น้อยลง”
จากนั้นในต้นเดือนมีนาคม เขาลาออกจากตำแหน่งประธานฯ เพื่อรับผิดชอบ
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จังหวัดฟุกุโอกะยื่นฟ้องเรียวกังในคดีอาญา เนื่องจากต้องสงสัยว่าละเมิดพระราชบัญญัติโรงอาบน้ำสาธารณะ ตามที่กฎหมายท้องถิ่นระบุว่าต้องเปลี่ยนน้ำอาบน้ำหมุนเวียนที่ใช้เป็นประจำทุกวันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
โรงแรมนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2408 และแขกที่เคยเข้าพักในอดีต ได้แก่ จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ซึ่งรู้จักกันในนามจักรพรรดิโชวะ
…
#ฆ่าตัวตาย
#แบคทีเรีย
#ญี่ปุ่น