วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 หายจากโรงไฟฟ้าเอกชน จ.ปราจีนฯ ผู้ว่าฯ แถลงด่วนบ่ายนี้

          กรณีวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 หายออกไปจากโรงไฟฟ้า บ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์  5 เอ จำกัด อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ช่วงบ่ายวันนี้(14 มี.ค.66) จ.ปราจีนบุรี จะมีการแถลงรายละเอียดเรื่องนี้ นำโดย นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ผู้แทน บ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์  5 เอ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่หายไปเป็นแท่งทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ติดอยู่ที่ปลายท่อโรงไฟฟ้า ซึ่งบริษัทไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไรและหายไปตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งผู้แทนบริษัทแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิแล้ว เนื่องจากเกรงว่า เมื่อมีผู้ไปสัมผัสจะเป็นอันตราย ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งรางวัลนำจับไว้ 50,000 บาท สำหรับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 กลับคืนมาได้

          Facebook NBT Chanthaburi รายงานว่า ซีเซียม-137 คือสารไอโซโทปของซีเซียม ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 55 มีครึ่งชีวิต 30 ปี สลายโดยปล่อยรังสีบีตา และรังสีแกมมา เป็นหนึ่งในผลผลิตการแบ่งแยกนิวเครียสและซีเซียม-137 ยังเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต้องได้รับสารปนเปื้อน เมื่อได้รับเข้าไปจะกระจายไปทั่ว ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ตับ และไขกระดูก

          บทความจากสมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทย ให้รายละเอียดของซีเซียม-137(Cs-137) ดังนี้ 

          ด้านนายสุเมธา วิเชียรเพชร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ  เปิดเผยถึง อันตรายที่จะได้รับว่าถ้าเข้าสู่ร่างกาย ก็จะทำลายเม็ดเลือดขาว หรือถ้าไปสัมผัส จะทำให้ผิวหนังไหม้ เซลตายได้  เช่น ตัวโคบอล ติดมาแล้ว ไปผ่า แล้วเอามือไปจับ มือก็จะเป็นแผลพุพอง ยังไม่เกิดทันที อาจจะวันหรือ 2 วัน ผิวหนังเกิดไหม้ได้ ทำให้ผมร่วง เช่นเดียวกับคนรักษามะเร็งได้รับรังสีก็จะทำให้ผมร่วงได้ หากคนเก็บของเก่าเอาไปขายต่อ  ถ้ามีปริมาณมาก คนที่อยู่รอบๆ ก็จะได้รับอันตรายได้ ขึ้นอยู่กับว่าสารในกระบอกนี้มีมากแค่ไหน รังสีอยู่ตรงไหน

#วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม137

#ปราจีนบุรี 

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ Facebook NBT Chanthaburi,สมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทย