รมว.คลัง เสนอเวทีอาเซียน+3 คาดGDP ปีนี้ดีขึ้น ที่ประชุมยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

03 พฤษภาคม 2566, 11:01น.


          สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รายงาน ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 คือ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เมืองอินชอน ห่างจากกรุงโซลของเกาหลีใต้ ไปทางตะวันตก 27 กิโลเมตร นอกรอบการประชุมประจำปีครั้งที่ 56 ของคณะกรรมการธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(Asian Development Bank: ADB)



          นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค โดยผู้แทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ADB และสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office: AMRO) ต่างเห็นพ้องว่า เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+3 ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก การเปิดเศรษฐกิจของจีนและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 



         IMF คาดการณ์ว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 ขณะที่ เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 และคาดว่าในปี 2567 เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 และร้อยละ 4.4 ตามลำดับ



          อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 องค์กร ได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 ยังคงเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะจากอัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเงินโลก ด้วยเหตุนี้ อาเซียน+3 ต้องมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน การดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชนในการระดมทุนสำหรับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอที่ประชุมให้ทราบถึงสถานการณ์และทิศทางเศรษฐกิจไทย คาดว่าในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 2.6 ในปี 2565 เนื่องจาก โครงสร้างพื้นฐานและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากกว่า 6 ล้านคนในไตรมาสแรกของปี 2566 นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงสู่เป้าหมายที่ร้อยละ 2.8 จากร้อยละ 1-3 ในเดือนมี.ค.2566 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน



         ในช่วงบ่ายวันที่ 2 พ.ค.66 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือทวิภาคีกับ H.E. Indranee Thurai Rajah รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนที่สอง สาธารณรัฐสิงคโปร์ และนาย Phouthanouphet Saysombath รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเงิน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในประเด็นเศรษฐกิจและการยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน เช่น การส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงทางกายภาพและดิจิทัล



          Yonhap News Agency รายงานว่า เจ้าหน้าที่การเงินจากเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เห็นพ้องกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการยกระดับเครือข่ายความปลอดภัยทางการเงินทั่วโลกเมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ



          ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+3 และผู้ว่าการธนาคารกลาง มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคผ่านเวทีต่างๆ รวมถึงโครงการริเริ่มเชียงใหม่พหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation: CMIM) เพื่อให้สมาชิกสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินภายใต้ CMIM ด้วยเงินสกุลท้องถิ่นและสกุลเงินอื่นๆ ของประเทศสมาชิกได้



           แถลงการณ์ ระบุว่า ที่ประชุมตระหนักดีว่าความร่วมมือทางการเงินของอาเซียน+3 มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการสนับสนุนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและความท้าทาย



           ความร่วมมือภายในภูมิภาคที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคในการรักษาความปลอดภัยการเติบโตหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19  สมาชิกยังตระหนักถึงความจำเป็นในการค่อยๆ ยกเลิกข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 โดยพิจารณาจากสถานการณ์ที่ดีขึ้น      



#ประชุมอาเซียนบวกสาม



CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง:Fiscal Policy Office,กระทรวงการคลัง Ministry of Finance,Yonhap News Agency



 

ข่าวทั้งหมด

X