นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกร้องนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ ให้รัสเซียเลิกสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครน และหันมาช่วยกดดันกลุ่มกบฏที่นิยมรัสเซียยุติการยึดอาคารสถานที่ในเมืองสลาเวียนส์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อเริ่มคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด นอกจากนี้ ยังเตือนว่า หากรัสเซียยังแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของยูเครน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ค. รัสเซียอาจจะต้องเผชิญมาตรการคว่ำบาตรอีกระลอก ขณะที่นายลาฟรอฟเรียกร้องสหรัฐฯ ผ่านถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศให้ใช้อิทธิพลบีบบังคับให้ยูเครนยุติปฏิบัติการทหารในภาคตะวันออกเฉียงใต้ทันที รวมทั้งถอนทหารกลับและปล่อยตัวผู้ประท้วง นอกจากนี้ นายลาฟรอฟยังเรียกร้องให้องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือ OSCE เพิ่มบทบาทในการเจรจาไกล่เกลี่ยวิกฤตการณ์ในยูเครน กับใช้อิทธิพลกดดันให้ยูเครนยุติปฏิบัติการทหารในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
ข้อเรียกร้องยังมีขึ้นในวันเดียวกับคณะผู้สังเกตการณ์จาก OSCE ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มกบฏที่นิยมรัสเซีย โดยคณะผู้สังเกตการณ์ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย ชาวเยอรมัน 4 คน ชาวโปแลนด์ เดนมาร์ก และเช็กชาติละ 1 คน ได้เดินทางกลับเยอรมนีแล้ว หลังจากถูกจับกุมไปเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ทั้งหมดมีสุขภาพแข็งแรงดี หนึ่งในคณะผู้สังเกตการณ์ชาวเช็กเล่าว่า ถูกนำตัวไปคุมขังอยู่ในห้องใต้ดินในสภาพผูกมือ ปิดตา และยอมว่า ในช่วง 8 ชั่วโมงแรกของการจับกุมนับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมากที่สุด และบรรยากาศทวีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อยูเครนปฏิบัติการเชิงรุกกดดันให้กลุ่มกบฏปล่อยตัวคณะผู้สังเกตการณ์ (1045 F171)