สำนักงานตำรวจลับ (U.S. Secret Service)ของสหรัฐฯเริ่มทำการสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบหลักฐานจากกล้องซีซีทีวีและการลงบันทึกการเข้า-ออกบริเวณทำเนียบขาวเพื่อตรวจว่าใครเข้าออกในจุดที่พบโคเคน หลังตำรวจพบโคเคนอยู่ในห้องเก็บของในทำเนียบขาวเมื่อคืนวันอาทิตย์ จุดที่พบอยู่ในอาคารฝั่งเวสต์วิง ซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานของฝ่ายบริหาร อยู่ติดกับส่วนที่เป็นที่พักของประธานาธิบดี รวมถึงห้องทำงานรูปไข่ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี พื้นที่สำหรับสื่อมวลชน รวมถึงพื้นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ คณะที่ปรึกษาประธานาธิบดี ทำให้ตำรวจต้องสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากทำเนียบขาวและปิดพื้นที่ดังกล่าวเมื่อเวลา 20.45 น.ของวันอาทิตย์(หรือหลังพบวัตถุดังกล่าว) เพื่อความปลอดภัย
แต่ในคืนวันเกิดเหตุ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและครอบครัวไปพักอยู่ที่แคมป์เดวิด บ้านพักในชนบทของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแมริแลนด์ ตั้งแต่วันศุกร์ (30 มิ.ย.) และกลับมาที่ทำเนียบขาวในวันอังคาร (4 ก.ค.) ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสหภาพครูระดับชาติ และมีกำหนดการเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงบาร์บีคิว เพื่อเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจประจำทำเนียบขาวได้ทำการตรวจตราจุดต่างๆของทำเนียบขาว ซึ่งกระทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ได้พบผงแป้งต้องสงสัยอยู่ในบริเวณคลังพัสดุ ซึ่งเป็นจุดที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทำเนียบขาวเป็นหมู่คณะ และเป็นพื้นที่เก็บของที่เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวหลายร้อยคนสามารถเข้าออกได้ ตลอดถึงผู้มาเยือนใช้เก็บเครื่องโทรศัพท์มือถือขณะเข้ามาที่ทำเนียบขาว ซึ่งผลตรวจสอบในเบื้องต้นและการตรวจซ้ำในเวลาต่อมาบ่งชี้ตรงกันว่า เป็นโคเคน
สำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯระบุว่า โคเคนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ตามกฎหมายควบคุมยาเสพติด หมายความว่า มีโอกาสสูงมากที่จะมีการนำมาใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
#พบโคเคน
#ทำเนียบขาว