น้ำท่วมพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งของจีน เปิดใช้งานอ่างเก็บน้ำคุมน้ำท่วม

          สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สำนักงานใหญ่ด้านการควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งประจำเทศบาลกรุงปักกิ่งของจีน รายงานว่าพายุฝนที่พัดถล่มปักกิ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย และผู้สูญหายอีก 27 ราย รายงานระบุว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในเขตเหมินโถวโกว 4 ราย และเขตฝางซาน 2 ราย ซึ่งเป็นเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ อยู่ในเขตชางผิง 4 ราย และเขตไห่เตี้ยน 1 ราย ด้านผู้สูญหายอยู่ในเขตเหมินโถวโกว 13 ราย เขตชางผิง 10 ราย และเขตฝางซาน 4 ราย

          รายงานระบุว่าปักกิ่งมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 257.9 มิลลิเมตร ส่วนย่านกลางเมืองมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 235.1 มิลลิเมตร เมื่อนับถึง 06.00 น. ของวันอังคาร (1 ส.ค.) ด้านเขตเหมินโถวโกวและเขตฝางซานมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 470.2 มิลลิเมตร และ 414.6 มิลลิเมตร

          ปัจจุบันมีการโยกย้ายผู้อยู่อาศัยทั่วปักกิ่งเนื่องด้วยผลกระทบจากฝนตกหนักราว 127,000 คนแล้ว ขณะที่หน่วยทหารประกอบด้วยกำลังพล 26 นาย และเฮลิคอปเตอร์  4 ลำ ได้ปฏิบัติภารกิจกู้ภัยด้วยการหย่อนสิ่งของทางอากาศตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อลำเลียงอาหารและน้ำให้แก่ผู้ตกค้างทั้งในและรอบสถานีรถไฟในเขตเหมินเถาโกวที่ได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากพื้นที่รอบกรุงปักกิ่งได้รับความเสียหายจากน้ำฝน ทำให้รถไฟ 3 ขบวนตกค้างระหว่างทาง และถนนในหลายพื้นที่ถูกตัดขาด หนังสือพิมพ์ปักกิ่งเดลี รายงานว่า ครัวเรือน 150,000 แห่งไม่มีน้ำประปาใช้ ทางการได้ส่งถังน้ำขนาดใหญ่ 45 ถังไปให้ความช่วยเหลือ และได้เปิดใช้งานอ่างเก็บน้ำควบคุมน้ำท่วมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สร้างขึ้นในปี 2541

         สำนักข่าวซินหัวรายงาน ระบบระบายน้ำเก่าแก่ของพระราชวังต้องห้ามหรือกู้กง สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และว้ฒนธรรมชื่อดัง ณ ใจกลางกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ที่กำลังเผชิญพายุฝนพัดถล่มในช่วงนี้

          ระบบระบายน้ำนี้ก่อสร้างขึ้นครั้งแรกในยุคราชวงศ์หมิง (ปี 1368-1644) มีคูน้ำยาว 15 กิโลเมตร ซึ่งเป็นคูน้ำแบบซ่อนตัวยาว 13 กิโลเมตร โดยคูน้ำทั้งหมดไหลสู่แม่น้ำสีทองชั้นใน (Inner Golden River) ที่เชื่อมกับคูน้ำรอบพระราชวังฯ รวมถึงแม่น้ำสีทองชั้นนอก และระบบน้ำจงไห่-หนานไห่

          สำหรับ รากฐานของพระราชวังฯ มีลักษณะเดียวกับภูมิประเทศลาดเอียงของปักกิ่ง ซึ่งจะยกสูงที่ทิศเหนือและลดต่ำที่ทิศใต้ รวมถึงยกสูงตลอดแกนกลางและลดต่ำที่ปีกทั้งสองข้าง ทำให้เหมาะสมต่อการระบายน้ำตามธรรมชาติ

          พายุทกซูรี (Doksuri) พัดขึ้นทางเหนือของจีนตั้งแต่วันศุกร์ แต่ฝนเริ่มตกกระหน่ำกรุงปักกิ่งและพื้นที่โดยรอบในวันเสาร์ ปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วง 40 ชั่วโมง มากเกือบเท่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยของเดือนกรกฎาคมทั้งเดือน ทางการกรุงปักกิ่งและมณฑลเหอเป่ยที่อยู่ติดกันได้แจ้งเตือนภัยพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเป็นระดับสีแดง เพราะสำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม

          ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 20  ราย สูญหาย 17 คน

#น้ำท่วมจีน 

CR:สำนักข่าวซินหัว