วันนี้ (17 ส.ค.66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อไปตรวจความก้าวหน้าของโครงข่ายคมนาคมระบบราง งานอุโมงค์รถไฟผาเสด็จ ช่วงมาบกะเบา-หินลับ ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และตรวจเยี่ยมงานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ช่วงอุโมงค์มวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ในโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคองที่จังหวัดสระบุรี
โดยระหว่างฟังบรรยายสรุป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องสร้างความเข้าใจกับผู้มีรายได้น้อยว่ารัฐบาลทำอะไรให้บ้าง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้วางยุทธศาสตร์ไว้อย่างดีแล้ว ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหน้าว่าจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ซึ่งยุทธศาสตร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ส่วนที่บางฝ่ายติงว่ามียุทธศาสตร์ชาติไว้ทำไม ก็เพื่อเป็นแนวทางไว้ เพื่อไม่ให้เดินอย่างสะเปะสะปะ ขอให้ผู้ที่ท้วงติงอ่านดูก่อน ทุกเรื่องถ้าไปจับเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่เข้าใจกัน อ่านกฎหมายก็ต้องอ่านให้หมด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ขึ้นขบวนรถไฟหมายเลข 3 บชส.1221 ซึ่งจัดเฉพาะระยะทาง 300 เมตร ไปยังบริเวณอุโมงค์ผาเสด็จ โดย พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่า ไม่ได้นั่งมาหลายปีแล้ว และบอกว่า ชอบขนมอาหารที่ขายข้างทางรถไฟ เช่น ข้าวเหนียวเนื้อ เมื่อถามว่าภูมิใจกับผลงานนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ก็ต้องภูมิใจไปด้วยกัน ส่วนจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อะไรสุดท้าย มีตั้งหลายขบวน รถไฟมันไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ถ้าทุกคนช่วยกันทำมันก็ไปข้างหน้าได้ มันถึงเกิดได้ไง ฉะนั้นรถไฟยังมีหัวขบวน ถ้าหัวขบวนดีก็ไปได้ตลอด ถ้าหัวขบวนไม่ดีก็ล้มทั้งขบวน มันไปไม่ได้เข้าใจหรือเปล่า เข้าใจไหม”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการรถไฟนี้กำลังใกล้จะแล้วเสร็จอีกหลายช่วง ซึ่งจากเดิมวิ่ง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เวลานี้วิ่งได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเดินทางจะเร็วขึ้น และจะไปเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูง ที่จังหวัดหนองคาย คู่ขนานกันไปจะทำให้คอขวดหายไป เพราะก่อนหน้านี้พื้นที่นี้เป็นคอขวดที่เดินทางขึ้นเขาไม่ได้ การเดินทางช้า ส่วนจะฝากอะไรถึงรัฐบาลใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่ต้องฝากก็ส่งต่อไป เพราะบางอันอยู่ในขั้นตอนการศึกษา และบางอันเป็นโครงการอยู่แล้ว ก็หวังว่าเขาจะทำต่อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนรถไฟนี้ยังมีนายอนุทินนั่งอยู่ด้วย ทำให้นายอนุทินซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังนายกฯ หัวเราะเสียงดังชอบใจ ส่วนจะฝากนายอนุทินไปสานงานต่อในรัฐบาลหน้าหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฝากทุกคนนั่นล่ะ ฝากเสี่ยหนู (อนุทิน) ก็ฝาก” พร้อมโบกมือให้นักข่าวและกล่าวว่า “ลาก่อน”
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ กทม. - หนองคาย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเส้นทางสายตะวันออก ท่าเรือแหลมฉบัง - แก่งคอย และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เป็นเส้นทางเศรษฐกิจ การค้า การขนส่ง เชื่อมโยงระหว่างประตูการค้าของไทย จาก กทม. และ ท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ สปป.ลาว และจีนตอนใต้
รถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีระยะทาง 132 กม. รวม 20 สถานี เริ่มต้นที่สถานีมาบกะเบา อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผ่าน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี,อ.ปากช่อง,อ.สีคิ้ว, อ.สูงเนิน สิ้นสุดที่สถานีชุมทางถนนจิระ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. คืบหน้าแล้ว 96.22% และช่วงคลองขนานจิตร - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. อยู่ระหว่างปรับแบบร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วง กทม.-นครราชสีมา
ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมไทยไปสู่ สปป.ลาว และจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมยุคใหม่ (Belt and Road Initiative : BRI) ที่จะเชื่อมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปถึงยุโรปได้ด้วยทางรถไฟ มีระยะทาง 253 กม. เริ่มที่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีปลายทางนครราชสีมา รวม 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง และนครราชสีมา ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว 1 สัญญา คือ ช่วงกลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. กับอยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา เตรียมก่อสร้าง 1 สัญญา และ ยังไม่ลงนามอีก 2 สัญญา
#รถไฟรางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ
#รถไฟรางคู่ช่วงมาบกะเบา
#จังหวัดสระบุรี
#ประยุทธ์จันทร์โอชา