ความคืบหน้ากรณีมูลนิธิกระจกเงา ประกาศตามหา น้องมัว เด็กชายชาวชาติพันธุ์อายุ 14 ปี ที่หายตัวไปจากบริเวณวัดบางโฉมศรี ต.ชีนํ้าร้าย อ.อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.66 เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า น้องมัว ถูกนายพัน หรือ บอย อายุ 40-50 ปี อาชีพเก็บของเก่าขายในตัวเมืองสิงห์บุรี ลักพาตัวพาขึ้นรถซาเล้งไป
ต่อมา ศาลจังหวัดสิงห์บุรี ออกหมายจับนายปิยะพงษ์ หรือ บอย หรือ พัน อายุ 35 ปี ในข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากความปกครองของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง และจากการสืบสวนของตำรวจ พบว่า นายปิยะพงษ์ ลักพาตัวน้องมัว พาเดินทางเข้าไปยังตัวเมืองสิงห์บุรี กระทั่งนายปิยะพงษ์ นำรถซาเล้งไปขายให้กับร้านรับซื้อที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี โดยพยานระบุว่า พบนายปิยะพงษ์มากับเด็กชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นหลานจะพาไปเรียนหนังสือ โดยเด็กเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลา คาดว่าเด็กชายคนดังกล่าว คือน้องมัวที่ถูกลักพาตัวมา
จากการตรวจสอบพบว่า นายปิยะพงษ์ เคยก่อคดีอนาจารเด็กหลายครั้ง พบหมายจับและประวัติคดีล่อลวงเด็กเพื่อกระทำอนาจารในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเคยมีหมายจับคดีพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีและหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เมื่อปี 2557 และเคยก่อเหตุล่อลวงเด็กชาย 4 คนไปกระทำอนาจาร ในป่าที่จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อปี 2560
ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ย.66) มูลนิธิกระจกเงา รายงานว่า พบตัวน้องมัวแล้ว โดยไปพบที่ จ.ปราจีนบุรี และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ น้องมัว ปลอดภัยดี พร้อมกับขอบคุณประชาชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยแชร์ข่าวตามหาน้องมัวจนพบ
ด้าน พ.ต.ท.พิพัฒน์ จ่างแก้ว ผู้กำกับสืบสวน สภ.ประจันตคาม เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.66) รับแจ้งจากนายวรฉัตร นิยมสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.ประจันตคาม ว่านายปิยะพงษ์ ผู้ก่อเหตุลักพาตัวน้องมัว ติดต่อจะขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำกำลังไปที่บ้านแม่ของนายปิยะพงษ์ ที่หมู่บ้านเกาะกระต่าย เพื่อรับตัวน้องมัว และคุมตัวนายปิยะพงษ์ มาสอบปากคำที่ สภ.ประจันตคาม รวมทั้งโทรศัพท์หาแม่น้องมัว ซึ่งน้องมัวร้องไห้คุยกับแม่เป็นภาษาพื้นเมือง
เบื้องต้น ทราบว่า นายปิยะพงษ์ ล่อลวงน้องมัว โดยบอกว่า จะซื้อโทรศัพท์ให้ แล้วพาขึ้นรถซาเล้ง เดินทางผ่านจังหวัดต่างๆ และกลับมาที่บ้านแม่ของผู้ต้องหา ใน อ.ประจันตคาม รวมเป็นเวลา 14 วัน น้องมัวไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย มีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว ที่ผ่านมาก็อยู่อย่างอดอยาก น้องมัว บอกว่า นายปิยะพงษ์พาไปอยู่ตามป่าหาหน่อไม้กิน ระหว่างทางเขาก็ซื้อของให้กิน แม้จะข่มขู่ให้กลัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายหรือทำอะไรอย่างอื่น
ด้านนายวรฉัตร นิยมสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.ประจันตคาม กล่าวว่า ทางญาติผู้ต้องหาติดต่อมาว่าจะขอมอบตัว เพราะทางบ้านก็ไม่อยากให้คนอื่นมองทางบ้านว่าไม่ดี ไม่อยากให้ที่พักพิง ซึ่งนายปิยะพงษ์ ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านแม่มาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว ส่วนน้องมัว มีอาการตื่นตระหนก หวาดกลัว แต่ตรวจสอบตามร่างกายยังไม่เห็นมีบาดแผล
#ลักพาตัวน้องมัว
#ลักพาตัวเด็ก
CR ภาพจากเพจ มูลนิธิกระจกเงา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิคราะห์ ศก.ไทย เผชิญความเสี่ยงสูงจากปัญหาน้ำท่วมหนัก
...
เตือน ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน พื้นที่รับน้ำ เสริมเครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ
...
เร่งค้นหา-ช่วยคนติดตามพื้นที่ต่างๆ ในฟลอริดา จากพายุมิลตัน ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
...
ข่าวทั้งหมด
