นอนบ้านเมตตาวันแรก! จิตแพทย์เตรียมประเมินสภาพจิตใจผู้ก่อเหตุ แยกกักตัวโควิด 5 วัน

05 ตุลาคม 2566, 19:05น.


        การควบคุมเยาวชนที่ก่อเหตุยิงในห้างดัง น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า หลังจากศาลเยาวชนฯ มีคำสั่งให้ส่งตัวมาที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่า ขั้นตอนหลังรับตัวเด็กจะมีนักจิตวิทยา จิตแพทย์ พ่อบ้านแรกรับหรือพ่อบ้านแห่งบ้านเมตตาพูดคุยสอบถาม และประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น



          เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เด็กไม่ค่อยพูดจา อาจเพราะเพิ่งเข้ามาภายในสถานพินิจฯ ยังไม่คุ้นชิน และไม่ค่อยอยากรับประทานอาหาร รวมถึงมีอาการวิตกกังวลบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนรู้ว่าจะต้องถูกแยก แต่ไม่มีอาการร้องไห้ฟูมฟายหรือซึมเศร้าผิดปกติ อีกทั้งไม่ได้รับแจ้งว่าเด็กเรียกร้องจะกลับบ้าน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับตัว



          ทั้งนี้ จะต้องกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ก่อน 5 วัน พร้อมประสานแพทย์เฉพาะทางของสถาบันกัลยาณราชนครินทร์ร่วมประเมินสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง หากแพทย์มีความเห็นว่าเด็กจะต้องเข้ารับการรักษา ก็จะทำรายงานพร้อมแนบความเห็นแพทย์เสนอต่อศาลเยาวชนฯ ให้ศาลรับทราบว่าจะมีการส่งต่อเด็กไปนอนพักรักษาตัวที่สถาบันกัลยาณฯ แทน ซึ่งเป็นหลักการปกติที่มีเด็กเกิดอาการจิตเวชร่วมด้วยก็จะได้รับการส่งต่อดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยระหว่างรอการพิจารณาคดีของศาล เด็กจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ในบ้านเมตตา ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อละลายพฤติกรรมและได้รับการพัฒนาพฤตินิสัย



          ส่วนประเด็นที่ผู้ปกครองสามารถขอนำตัวเด็กไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกเองได้หรือไม่นั้น รองอธิบดีกรมพินิจฯ ชี้แจงว่า ผู้ปกครองจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ และศาลจะพิจารณามีคำสั่งแจ้งกลับว่าจะอนุญาตหรือไม่ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องของผู้ปกครอง ศาลจะมีเอกสารแจ้งมายังสถานพินิจฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลต่อไป และผู้ปกครองจะต้องเดินทางมายังสถานพินิจฯ เพื่อเซ็นเอกสารรับตัวเด็ก และขั้นตอน หรือกระบวนการใดๆ ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นกับเด็กหลังจากนี้ ศาลเยาวชนฯ จะต้องรับทราบทุกเรื่อง



 



 



#ยิงในห้าง

ข่าวทั้งหมด

X