แถลงการณ์จากทำเนียบขาวของสหรัฐฯระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็กของสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี และ นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์(22 ต.ค.66) เพื่อหารือสถานการณ์การสู้รบอิสราเอล-กลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์และเรื่องสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา ระบุว่า นายไบเดน นายซูแน็กและผู้นำคนอื่นๆ ย้ำจุดยืนเรื่องการสนับสนุนอิสราเอลและสิทธิ์การป้องกันตนเองของอิสราเอลในการปราบปรามกลุ่มฮามาส ซึ่งถูกชาติตะวันตกขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้าย
แต่ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯและพันธมิตรหลักทั้ง 4 ของยุโรป ขอให้อิสราเอลทำตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการคุ้มครองพลเรือน พร้อมตอบรับท่าทีของกลุ่มฮามาส กรณีการปล่อยตัวประกันสองคนแรก ซึ่งเป็นแม่-ลูก ชาวอเมริกันเมื่อวันศุกร์(20 ต.ค.66) พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มฮามาส ปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันที
เรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แถลงการณ์ระบุว่า ผู้นำทั้ง 5 คนแสดงความยินดีที่ทุกฝ่ายรวมถึงอิสราเอลและอียิปต์ยอมเปิดด่านราฟาห์ให้รถบรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์แล่นเข้าไปในเขตฉนวนกาซาตั้งแต่วันเสาร์(21 ต.ค.66) พร้อมให้คำมั่นจะประสานกับพันธมิตรในตะวันออกกลาง เพื่อให้มีการเปิดด่านชายแดนให้องค์กรการกุศลระหว่างประเทศ สามารถลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์การแพทย์และความช่วยเหลืออื่นๆที่จำเป็นด้านมนุษยธรรมไปมอบให้ประชาชนในเขตฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
#สหรัฐฯ
#ชาติตะวันตก
#ย้ำอิสราเอลมีสิทธิ์ป้องกันตนเอง
#ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม