*เมืองไทยวันนี้ 8.30 น.*

วันนี้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทย จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายภายในกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมคืนพื้นที่ไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์

ส่วนเรื่องโครงการรับจำนำข้าว นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อทบทวนตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังและอดีตประธานคณะอนุกรรมการฯ ทำไว้เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 โดยขณะนี้ขณะทำงานฯ อยู่ระหว่างปิดบัญชีช่วงเดือนกันยายน และเดือนธันวาคม 2556 โดยพบว่าราคาข้าวในตลาดที่ตกต่ำทำให้รายได้ที่กลับเข้ารัฐลดลง คาดว่าผลการดำเนินโครงการที่ น.ส.สุภา เคยปิดบัญชีไว้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 และมีผลขาดทุนประมาณ 2 แสน 4 หมื่นล้านบาทนั้นจะเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวหรือเกือบ 5 แสนล้านบาท

ด้าน นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ประสานงานไปยังกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2558 ในการชำระหนี้คืนและจ่ายชดเชยส่วนต่างจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 1 แสน 8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการรวมเงินชดเชยหลายรายการที่รัฐบาลยังค้างจ่ายทั้งโครงการจำนำสินค้าเกษตรในอดีต โครงการจำนำข้าวก่อนปี 2554 และหลังปี 2554 รวมทั้งโครงการประกันราคา แต่ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ไม่เคยได้งบเต็มวงเงินที่ขอไป ส่วนที่ขอไปในปีนี้ก็น่าจะได้ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือประมาณแสนล้านบาท และในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ คณะกรรมการปิดบัญชีจะพิจารณาตัวเลขสินค้าคงเหลือ หรือข้าวในโกดังอีกครั้ง

ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ในปีนี้จะมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์           นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้า โดยเฉพาะในด้านการลงทุน โดยการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 1 ปี 2557 มียอดการเกินดุลกว่า 8 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์ เนื่องจากการนำเข้าที่ลดลง ขณะที่การส่งออกทรงตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะการลงทุนในประเทศที่ซบเซา นอกจากนี้ยังการนำเข้าน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นหลายแห่ง ทำให้การนำเข้าวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่นต่ำลดลง แต่ยังไม่ได้ทำให้การส่งออกลดลง

เที่ยงวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงข่าว “การประเมินระดับพัฒนากิจกรรมสังคม และการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นของบริษัทจดทะเบียนไทย

ส่วนเรื่องการศึกษา ทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) มีมติให้ยกเลิกการจัดสอบยูเน็ตวิชาภาษาอังกฤษ ที่จะจัดสอบนำร่องในปีการศึกษา 2557 และเลื่อนสอบทุกวิชาปี 2558 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ส่วนการประชุมเครือข่ายการกำกับคุณภาพการศึกษากลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก จัดโดยยูเนสโก นักวิจัยในนามยูเนสโกได้นำเสนอผลงานวิจัยเรื่องสถิติการกวดวิชาสำหรับใช้วิเคราะห์เพื่อกำกับดูแลการกวดวิชา พบว่า นักเรียนในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกมีการกวดวิชามากจนกลายเป็นการศึกษาคู่ขนานกับการศึกษาปกติ ซึ่งศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่าในประเทศไทย พบธุรกิจการกวดวิชาก็เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งแม้จะมีผลทางบวกที่เป็นการซ่อมและเสริม แต่ขณะเดียวกันกลับทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม และลบล้างการศึกษาในระบบ นักวิจัยจึงเสนอให้ควบคุมการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยให้โรงเรียนกวดวิชารวมตัวเป็นเครือข่ายเพื่อควบคุม ติดตามตรวจสอบ ทั้งค่าเล่าเรียนและการปฏิบัติ นอกจากนี้การกวดวิชายังเป็นภาพสะท้อนให้ย้อนกลับมาดูการศึกษาในระบบว่าต้องปรับปรุงเช่นกัน

 *-*