คุณภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปลอดภัย) การกู้เรือ กรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้กู้เรือภายใน 15วัน เรือลำนี้มีความยาว 24 เมตร กำหนดไว้ให้ต้องมีการทรงตัวที่ดี มีอุปกรณ์การช่วยชีวิต ตรวจสอบแล้วมีชูชีพเพียงพอ เรือลำนี้ปกติจะออกมาจากเกาะเต่า ถึง จ.สุราษฎร์ธานี เวลา 05.00น.ที่เรือไม่จมทันที เพราะช่องน้ำ เพื่อหน่วงเวลา มีเวลาให้ลำเลียงผู้โดยสารออกมาให้ปลอดภัย มีชูชีพเพียงพอ เป็นการหน่วงเวลา หลังจากนี้ต้องไปตรวจดูเรื่องของการประกัน ปกติสิ้นปีมีการตรวจเรือทุกปีอยู่แล้ว แต่คงต้องตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อสรุป แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียง ต้องสำรวจดูว่าปั๊มในเรือทำงานหรือไม่ คาดว่า ใช้เวลาภายใน 10 วัน ก็ทราบผล เป็นเรื่องดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ครั้งนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่น เรื่องการเข้าไปช่วยเหลือ ทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะชีวิตคนสำคัญที่สุด ซึ่งก่อนออกเรือโดยสารในทะเลทุกครั้งครั้งต้องมีการตรวจสอบ
พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยการช่วยเหลือลูกเรือว่าหลังจากตรวจสอบเเล้วพบว่ามีทั้งหมด 101 คน หลังจากนี้ก็ช่วยจัดการทรัพย์สินเก็บสิ่งของ สัมภาระต่างๆ ของลูกเรือที่ลอยอยู่ในทะเล พิสูจน์ทราบและนำส่งคืน วิธีการ ช่วยค้นหา ทรัพย์สินของผู้โดยสาร น่าจะติดอยู่ภายในเรือ จุดที่เรือจม มีความลึก 35 เมตร ถือว่าค่อนข้างลึก ต้องใช้นักดำน้ำที่มีประสบการณ์ในการสำรวจ จะมีเรือเล็กคอยช่วยสำรวจ ค้นหาโดยรอบแล้ว มีเรดาร์ช่วย แบบกล้อง 2 ตา ทรัพย์สินของผู้โดยสารน่าจะลอยไปไม่ไกล ส่วนเรื่องเรือจม คงต้องใช้เวลาดำลงไป เรื่องของการมองเห็นในน้ำก็อาจมีข้อจำกัด เจ้าท่าสุราษฎร์ฯ ออกคำสั่งเตือนคลื่นลมแรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว
#เรือนอนเกาะเต่า