หลัง พยานทั้ง4ปาก ให้การคดีนายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพเพราะ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสร็จสิ้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาและอ่านคำแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติในวันพรุ่งนี้(7 พ.ค.) เวลา12.00น.
ก่อนหน้านี้ นายถวิล ได้ให้ปากคำในฐานะพยานบุคคลปากที่ 3 ต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการโยกย้ายตนของนายกรัฐมนตรีไม่ถูกต้องตามระบบคุณธรรมของข้าราชการและไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของการบริหารงานราชการ ก่อนการโยกย้ายไม่ได้มีการทาบทามตนเองไปนั่งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำแต่อย่างใด ซึ่งขบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เร่งรีบมาก เพราะในช่วงระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค. 54 ตนยังตามนายกฯไปแถลงนโยบายด้านความมั่นคงต่อสภา แต่ ในวันที่ 6 ก.ย. ก็โดนปลดพ้นตำแหน่ง เลขาฯ สมช.แล้ว ซึ่งใช้เวลาในการโยกย้ายตนเอง ไม่เกิน 15 วัน
ด้านพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร.และอดีตเลขาธิการ สมช. ได้ให้ปากคำต่อศาลโดยกล่าวว่า การย้ายไปดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสมช.ถือเป็นความสมัครใจ ไม่ได้มีการบังคับหรือต่อรองผลประโยชน์ ยืนยันนายกไม่เคยมีเงื่อนไขในการเข้ารับตำแหน่ง ไม่ทราบมาก่อนว่า หากย้ายตำแหน่งไป พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ จะมารับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าตนเองทำงานในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะนโยบายหลักของรัฐบาลที่เน้นงานด้านยาเสพติด รวมถึงยอมรับว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น เนื่องจากเห็นว่าร.ต.อ.เฉลิม พูดจาตำหนิตนเองผ่านสื่อมวลชน ทั้งนี้รู้สึกเสียใจที่ทำให้ภาพพจน์ของตำรวจเสื่อมเสีย
บุศรินทร์