'ทรัมป์' ชนะหยั่งเสียงขั้นต้นพรรครีพับลิกัน รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ต่อจากรัฐไอโอวา

         รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐฯ จัดให้มีการหยั่งเสียงขั้นต้นรอบไพรมารี(primary)คัดตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากทั้งสองพรรคคือ รีพับลิกันและพรรคเดโมแครต เมื่อวันอังคาร(23 ม.ค.67) ระหว่างเวลา 07.00น.-20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 19.00น.ของวันอังคาร จนถึงเวลา 08.00น. วันพุธ (24 ม.ค.67) ตามเวลาในประเทศไทย ในรัฐนี้มีจำนวนคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง(delegate)รวม 22 คะแนน ซึ่งการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วและเจ้าหน้าที่เลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆอยู่ระหว่างการนับคะแนน 

          ล่าสุด ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การนับคะแนนเสร็จแล้วร้อยละ 60 ปรากฎว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัล์ ทรัมป์ วัย 77 ปี มีคะแนนนำในอันดับที่ 1 คว้าคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 12 คะแนน ขณะที่ นางนิกกี เฮลีย์  อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติวัย 52 ปี รั้งอันดับที่ 2 ได้ 9 คะแนน

         นายทรัมป์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในโอกาสคว้าชัยชนะที่เมืองแนชัว รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของกลุ่มผู้สนับสนุนอย่างกึกก้องว่า USA! นายทรัมป์เริ่มต้นการปราศรัยด้วยการชื่นชมรัฐนิวแฮมป์เชียร์ว่า เป็นรัฐที่ยอดเยี่ยม พร้อมวิจารณ์นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯวัย 81 ปี คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตว่าเป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุด บริหารประเทศย่ำแย่กว่าประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดของสหรัฐฯ 10 คนรวมกัน นายทรัมป์ วิจารณ์นายไบเดนว่า ไม่สามารถจะพูดสัก 2 ประโยคโดยไม่ต้องอ่านสคริปต์ที่เตรียมมา หรือไม่ก็พูดนอกสคริปต์อยู่เป็นประจำ

         นายทรัมป์ได้วิจารณ์กลุ่มผู้สนับสนุนนายไบเดนว่าเป็นกลุ่มที่เกลียดชังประเทศของตนเอง ซึ่งถ้าพรรครีพับลิกันไม่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 อนาคตของประเทศก็หมดสิ้นแค่นี้ นายทรัมป์ พูดถึงนางเฮลีย์ว่าจะเป็นค่ำคืนแห่งการฝันร้ายสำหรับนางเฮลีย์ แต่เธอประกาศจะเดินหน้าแข่งขันต่อ แม้ว่าจะแพ้การหยั่งเสียงขั้นต้น

          ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจเอ็กซิตโพลล์ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ CBS ของสหรัฐฯ คาดว่า การหยั่งเสียงขั้นต้นรอบไพรมารีชิงตัวแทนผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ นายทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้ง คว้าคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 11 คะแนน และคาดว่า นางเฮลีย์ รั้งอันดับที่ 2 ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 8 คะแนน

        นับเป็นชัยชนะอีกครั้งสำหรับนายทรัมป์ ต่อเนื่องจากชัยชนะในการหยั่งเสียงขั้นต้นรอบคอคัส(caucus)ในรัฐไอโอวา เมื่อวันที่ 15 ม.ค.67 จะทำให้นายทรัมป์ เป็นตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะได้รับการรับรองจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคกลางปีนี้ลงสู้ศึกเลือกตั้งแข่งกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตในวันที่ 5 พ.ย.67

         ขณะที่นางเฮลีย์ คู่แข่งคนเดียวที่เหลืออยู่ของนายทรัมป์ ประกาศจะเดินหน้าแข่งขันกับนายทรัมป์ต่อไป ระบุว่า การแข่งขันยังอยู่ในระยะเริ่มต้น อีกหลายเดือนกว่าจะสิ้นสุดลง โดยนางเฮลีย์ ซึ่งคว้าอันดับที่ 3 ในการหยั่งเสียงขั้นต้นรอบคอคัสในรัฐไอโอวาเมื่อสัปดาห์ก่อน หวังว่ากลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแนวคิดเสรีนิยมจะมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากๆ จะช่วยให้เธอชนะนายทรัมป์ในการเลือกตั้งของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ขณะที่นายทรัมป์พูดในที่ปราศรัยแห่งหนึ่งในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ กล่าวว่า เขาไม่สนใจว่านางเฮลีย์จะยังแข่งขันต่อไปหรือไม่ เพิ่มเติมว่า ให้เธอแข่งไป ถ้าหากเธออยากจะแข่งขันต่อ

        นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ระบุว่า การเลือกตั้งในวันนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแนวคิดเสรีนิยมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45 เพิ่มจากร้อยละ 42 ซึ่งร่วมการเลือกตั้งรอบไพรมารีสำหรับพรรครีพับลิกันในปี 2559 ส่วนการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแนวคิดเสรีนิยมคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 16 ขณะที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยม

         ส่วนการชิงตัวแทนผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครต ผลสำรวจของ CBS คาดว่า นายไบเดนจะชนะการเลือกตั้งรอบหยั่งเสียงขั้นต้นในรัฐนิวแฮมป์เชียร์เช่นเดียวกัน นายไบเดน ไม่มีรายชื่อในบัตรเลือกตั้งในการแข่งขันรอบไพรมารีของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนของนายไบเดนได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนนายไบเดน มีสิทธิ์แข่งขันกับผู้สมัครอีก 2 คนที่มีรายชื่อในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเป็นปัญหาภายในพรรคที่ยังจัดการไม่ลงตัว

         นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะยังไม่จัดสรรคะแนนคณะผู้เลือกตั้งให้กับพรรคเดโมแครต เนื่องจาก ปัญหาขัดแย้งในพรรค แต่การแข่งขันของพรรคเดโมแครตในการชิงคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในรัฐเซาท์แคโรไลนาในวันที่ 3 ก.พ.67 นี้

#การเมืองสหรัฐ